ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาแบตเตอรี่ลิเธี่ยมพุ่งสูง

ตอนนี้ชาววีลแชร์ไฟฟ้าหลายๆท่านที่พึ่งพาแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนเป็นแหล่งพลังสำคัญ และกำลังจะหาซื้อแบตเตอรี่ก้อนใหม่มาเป็นอะไหล่คงจะต้องตกใจกับราคาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่พุ่งสูงมาก ณ ขณะนี้

หลายๆท่านอาจจะกำลังสงสัยว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เจ้าแบตตัวนี้ถึงได้มีราคาสูงขนาดนี้ วันนี้ Elife มีคำตอบมาให้ทุกคนกันครับ

ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนั้นเป็นขั้นกว่าของการพัฒนาแหล่งกำเนิดพลังงานในอุตสาหกรรม และเกิดขึ้นมาหลังแบตเตอรี่แบบกรดตะกั่วนานมากๆ มนุษย์พึ่งจะมารู้จักการใช้ประโยชน์จาก แร่ลิเธียม ได้ไม่นานประมาณ 20 ปี ดังนั้นจึงถือว่าเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยม สิ่งของหลายอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ แล็บท็อป แท็บเล็ต เครื่องมือในโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ รวมไปถึงรถเข็นไฟฟ้าด้วย

สาเหตุที่ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ได้รับความนิยม

1. น้ำหนักเบา : ธาตุลิเธียมที่นำมาใช้ผลิตแบตเตอรี่นั้นเป็นโลหะอัลคาไลน์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก จึงทำให้ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเบาตามไปด้วย

2. อายุการใช้งานนาน : เนื่องจากได้รับการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ จนทำให้ตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีประจุไฟฟ้าที่สูงกว่า และเก็บประจุไฟฟ้าได้นาน

3. ให้พลังงานสูง, คงที่ และชาร์จได้เร็ว : เนื่องจากมีเซลล์ไฟฟ้าเคมีที่สูงว่าเซลล์จากโลหะอื่น เป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่มีแรงดันไฟฟ้าที่สูงกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ

4. เป็นเซลล์แห้ง : ไม่มีส่วนประกอบของของเหลวที่เป็นกรดหรือตะกั่ว จึงทำให้ปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

แล้วอะไรกันละที่ทำให้ราคาของมันพุ่งสูงนัก? หากพูดให้เข้าใจง่ายๆก็ต้องบอกว่า “มีอุปสงค์มากกว่าอุปทาน” นั่นเอง

แร่ลิเธี่ยม (Lithium) คือแร่หลักในการทำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งราคาเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวในปีที่ผ่านมา ตามที่สำนักงานมาตรฐานแร่ธาตุสากลบ่งบอกว่า ความต้องการวัสดุที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ และการจัดเก็บพลังงานหมุนเวียนได้เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่โรงงานเหมืองพยายามที่จะเพิ่มอุปทานเข้ามา แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองการบริโภคได้ ก่อนหน้านี้ราคาลิเธียมตกต่ำเป็นเวลานาน นับตั้งแต่จุดสูงสุดของปี 2018 หมายถึงการลงทุนในภาคธุรกิจชะลอตัว แต่ปัจจุบันที่มีการระบาดโควิด-19 ได้ทำให้ข้อจำกัดด้านอุปทานรุนแรงขึ้น ส่วนในด้านอุปสงค์การเปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้าล้วนได้เร่งการนำ EV(Electric Vehicle) มาใช้ และการบริโภคลิเธียมทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5 เท่าภายในสิ้นทศวรรษนี้

ตรงนี้จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับบริษัทที่จำหน่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ต้องปรับราคาสินค้าสูงขึ้น รับแรงกดดันจากผู้บริโภคหรือก็คือลูกค้าโดยตรง

แต่อย่างไรก็ตาม Elife แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนที่สูงขึ้นโดยที่ส่วนหนึ่งมาจากราคาแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนที่สูงขึ้น แต่ทางร้านก็เลือกที่จะยังคงราคาสินค้าเอาไว้ให้ลูกค้าตามเดิม เพราะเราต้องการรักษาลุกค้าของเราทุกคนเอาไว้ดังคนในครอบครัว ยังคงยึดคอนเซ็ป..

“แบรนด์ Elife แบรนด์ของคนไทย ใช้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยสินค้าElife คุณภาพระดับสากล ในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้”