เงินผู้สูงอายุ (เบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุ /เงินคนแก่/เบี้ยเลี้ยงคนชรา) ก็คือเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะจ่ายให้เดือนละ 600-1,000 บาท/เดือน ซึ่งในแต่ละคนนั้นก็จะได้เงินในส่วนนี้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับอายุของบุคคลนั้น ๆ ด้วย โดยจ่ายเงินผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำหรับในปีงบประมาณ 2564 หรือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 จนถึงเดือนกันยายน 2564 กรมบัญชีกลางได้ออกปฏิทินการทำงาน สำหรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเบี้ยความพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ทั้งนี้สำหรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” มีการดำเนินการมาตรการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุ โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554
ปฏิทินรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ…ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 จนถึงเดือนกันยายน 2564 ธนาคารจะโอนเงินให้ผู้มีสิทธิผ่านบัญชีธนาคาร ดังนี้
เบี้ยผู้สูงอายุประจำเดือน /ปี | วันที่จ่ายเงิน |
เดือนธันวาคม 2563 | 9 ธันวาคม 2563 |
เดือนมกราคม 2564 | 8 มกราคม 2564 |
เดือนกุมภาพันธ์ 2564 | 10 กุมภาพันธ์ 2564 |
เดือนมีนาคม 2564 | 10 มีนาคม 2564 |
เดือนเมษายน 2564 | 9 เมษายน 2564 |
เดือนพฤษภาคม 2564 | 10 พฤษภาคม 2564 |
เดือนมิถุนายน 2564 | 10 มิถุนายน 2564 |
เดือนกรกฎาคม 2564 | 9 กรกฎาคม 2564 |
เดือนสิงหาคม 2564 | 10 สิงหาคม 2564 |
เดือนกันยายน 2564 | 10 กันยายน 2564 |
สำหรับการลงทะเบียนรอบที่ 1 หมดเขตไปเมื่อ 30 พ.ย. 63 สามารถลงทะเบียนรอบที่ 2 ได้ในเดือน ม.ค. – ก.ย.64 ณ องค์กรปกครองท้องถิ่นตามภูมิลำเนา
สำหรับการลงทะเบียนรอบใหม่ : เปิดลงทะเบียนเบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุของปี 2564
เนื่องจากเบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุของปี 2563 ได้สิ้นสุดลงในเดือนกันยายน ดังนั้นเพื่อให้ผู้สูงอายุรายใหม่ได้รับสิทธิ์เบี้ยเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์เบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุรอบใหม่ในปี 2654 ซึ่งจะเป็นการแจกเงินในเดือนที่เหลือของปี 63 และของปี 64 ที่จะถึงนี้ (ตามปฏิทินด้านบน)
ซึ่งสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนอยู่ก่อนแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนซ้ำ ยกเว้นในกรณีที่มีการย้ายภูมิลำเนา แต่สำหรับผู้สูงอายุรายใหม่ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือผู้สูงอายุยังไม่เคยลงทะเบียนหรือไม่เคยรับสิทธิ์ใด ๆ มาก่อน สามารถลงลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- สำหรับผู้สูงอายุที่สามารถลงทะเบียนได้ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป จะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน- 1 ตุลาคม 2505 ถึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้ โดยจะเป็นผู้มีสิทธิรับเงินถัดจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปี ซึ่งก็คือเดือน ตุลาคม 2565 นั้นหมายความว่าเป็นงบประมาณของปี 2566
หมายเหตุ : หากข้อมูลในทะเบียนราษฎรไม่มีวันเกิดที่แน่ชัด รู้แต่เพียงปีเกิดเท่านั้นให้ถือว่า วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเกิด
สำหรับการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร สามารถเลือกวิธีการของรับได้จาก
- ขอรับเป็นเงินสด (รับด้วยตัวเอง หรือ รับผ่านคนที่ได้รับมอบอำนาจ)
- โอนเงินเข้าบัญชี (ของตัวเอง หรือ ของคนที่ได้รับมอบอำนาจ)
ใครบ้างที่มีสิทธิ์ได้รับเงิน เบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุ ?
- จะต้องมีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองตามทะเบียนบ้าน
- จะต้องมีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- จะต้องไม่เคยรับสิทธิ์ใด ๆ มาก่อน ไม่ว่าจะจากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ อาทิเช่น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด หรือหากคุณอยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองใด ๆ ที่ได้รับเงินเดือนหรือมีผลประโยชน์เป็นค่าตอบแทนที่ได้เป็นประจำ ก็ถือว่าไม่มีสิทธิ์รับเงิน เบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุ
จะได้ เบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุ เท่าไหร่ ?
อายุ | ได้รับเงิน |
อายุ 60-69 ปี | ได้รับเงิน 600 บาท/เดือน |
อายุ 70-79 ปี | ได้รับเงิน 700 บาท/เดือน |
อายุ 80-89 ปี | ได้รับเงิน 800 บาท/เดือน |
อายุ 90 ปีขึ้นไป | ได้รับเงิน 1,000 บาท/เดือน |
ลงทะเบียนรับเบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุ ได้ที่ไหน ?
- หากคุณอยู่ในเขตกรุงเทพฯ สามารถไปยื่นได้ด้วยตนเอง หรือมอบสิทธิ์ให้ปผู้อื่นไปยื่นแทนได้ค่ะ แต่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยนะคะ โดยสามารถไปยื่นได้ที่สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนั้น ๆ
- หากคุณอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด สามารถยื่นได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือ สำนักงานเทศบาล ที่ขึ้นอยู่กับภูมิลำเนาของคุณหรือที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนั้น ๆ ค่ะ
เอกสารที่ต้องเตรียมในการลงทะเบียนรับเบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุ
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง หรือหากไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จะต้องมีบัตรหรือเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีรูปถ่าย
- ทะเบียนบ้านตัวจริง และถ่ายสำเนามา 1 ฉบับ
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารตัวจริง ที่เป็นประเภทออมทรัพย์ และถ่ายสำเนามา 1 ฉบับ
กรณีให้ผู้อื่นมาดำเนินเรื่องแทนผู้สูงอายุจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ?
- หนังสือมอบอำนาจ โดยแบบฟอร์มของแต่ละพื้นที่จะเหมือนกัน คุณจะต้องเข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สำหนักก่อน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้สูงอายุ(ผู้มอบอำนาจ) และของผู้ที่มาดำเนินเรื่องแทน (ผู้ที่รับอำนาจ) อย่างละ 1 ฉบับ
- สำเนาทั้ง 4 ฉบับ จะต้องมีการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย ได้แก่
- ประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจ
- ประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับอำจาจ
เงินไม่เข้าทำอย่างไรได้บ้าง?
- นำสมุดบัญชีติดต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อทป. หรือ อบต.ในพื้นที่)เพื่อทำการปรับปรุงข้อมูล
ข้อมูลจาก : กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department
-
Full Setไม้แท้เตียงการแพทย์
Berlin 3 | เตียงไฟฟ้าผู้ป่วย สูงอายุ ปรับระดับได้ 3ไกร์ 6ปุ่ม วัสดุไม้แท้ (Full Set)
Original price was: 49,900฿.35,900฿Current price is: 35,900฿. Add to cart -
EW-120Plus | วีลเแชร์ ล้อจับ 20นิ้ว เข็นเองได้ ล้อจับอลูมิเนียม 2in1 เข็นเองได้
Original price was: 9,990฿.6,990฿Current price is: 6,990฿. Add to cart -
EW-88 | รถเข็นนั่งถ่ายคร่อมกับชักโครก ทำความสะอาดง่าย ดูแลผู้สูงอายุ
Original price was: 4,990฿.3,390฿Current price is: 3,390฿. Read more