การปลูกต้นไม้ถือเป็นงานอดิเรกที่ดีในช่วงกักตัวแบบนี้…นอกจากการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ คนทั่วไปที่กำลัง Work Form Home ช่วยทำให้อารมณ์ผ่อนคลายยังใช้ตกแต่งบ้านให้ดูร่มรื่นและการทำงานขณะ WFH ก็สบายตามากยิ่งขึ้น..นอกจากนี้ยังมีต้นไม้บ้างชนิดที่สามารถดูดสารพิษหรือฟอกอากาศได้อีกด้วย
ชนิดของต้นไม้วันนี้อีไลฟ์ได้คัดสรรมาแล้วทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ โดยทุกชนิดนี้สามารถปลูกไว้ในบ้านได้แถมยังดูแลง่าย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ…
1. เฟิร์นบอสตัน
เป็นไม้ประดับตระกูลเฟิร์นมีลักษณะคล้ายใบมะขาม ใบขึ้นหนาทึบไม่มีดอก ปลายใบไม่มีแฉก ก้านใบแข็งและโค้งงอลงเมื่อมีอายุมากขึ้นเป็นพืชที่ชอบความชื้นสามารถปลูกในที่ร่มได้สบายๆ..ส่วนใหญ่นิยมปลูกทั้งในและนอกอาคาร นิยมปลูกในกระถางและหรือกระถางแขวนประตามเสาหินหรือตามอาคาร ที่สำคัญเฟิร์นบอสตันมีคุณสมบัติช่วยดูดสารพิษและฟอกอากาศในบ้านได้ดี โดยเฉพาะจำพวกฟอร์มาดีไฮด์ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่อาคารภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
การดูแลรักษา
- รดน้ำให้ชุ่มพอดี ไม่แฉะน้ำจนเกินไปเพราะอาจทำให้เฟิร์นเฉาตายได้และถ้าขาดน้ำใบจะกลายเป็นสีน้ำตาลและร่วงลงอย่างรวดเร็ว
- ควรได้รับแสงแดดบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อป้องกันใบเหลือง
- ควรให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแบบละลายน้ำ ฉีดพ่นเป็นละอองเบาๆ เพียงเดือนละครั้ง
2. ยางอินเดีย
จริงแล้วเป็นต้นไม้ตระกูลเดียวกับต้นไทร มีขนาดใหญ่เท่ากับต้นไม่ทั่วๆไปแต่เมื่อนำมาปลูกใส่กระถางจะกลายเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่โตช้าทันที ดังนั้นจึงเป็นต้นไม่แคระห์ที่สามารถนำมาปลูกในบ้านและนอกบ้านได้ มีลักษณะเด่นที่ใบมีความมันเงา แข็งเป็นรูปวงรี เมื่อโตเต็มที่จะมีรากอากาศห้อยตามลำต้นคล้ายกันกับต้นไทร
การดูแลรักษา
- ต้นยางอินเดียเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดด แต่ไม่ควรวางไว้ที่แดดจัดเกินไปจะทำให้ใบไหม้ไม่สวย ควรวางไว้ที่มีแสงแดดรำไร 3-5 ชั่วโมง
- ดินที่ใช้ควรมีความโปร่ง หรือใช้ผสมกับทราย
- ไม่ควรรดน้ำบ่อยๆ ควรรอให้รากแห้งสนิท ไม่นั้นอาจทำให้รากเน่า ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้
- ใช้ผ้าหมาดเช็ดทำความสะอาดใบอยู่เสมอ เพื่อกำจัดฝุ่นออกและใบมีความเงางามสวย
- ตัดแต่งใบที่แก่และกิ่งที่ต้นออก เพื่อให้ใบแตกใหม่อยู่ตลอด
3. เดหลี
เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงามและเป็นจำนวนน้อยที่สามารถนำมาปลูกในที่ร่มได้ มีลักษณะใบเป็นสีเขียวเข้มเงางาม มีดอกเป็นช่อสีขาวหรือขาวแกมเหลือง กาบหุ้มช่อดอกไม้สีขาวคล้ายกันกับดอกหน้าวัวเป็นไม้พุ่มเตี้ยสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร โดยธรรมชาติเดหลีชอบอยู่ตามพื้นที่ลำธารที่มีความร่มเงาในป่าฝนเขตร้อน แต่เมื่อนำมาปลูกในบ้านหรืออาคารเดหลีก็สามารถปรับตัวได้ดี ที่สำคัญเดหลีสามารถดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคลอไรเอทีรีน เบนซีนและฟอร์มาดีไฮด์ และสามารถดูดได้ในปริมาณมาก
การดูแลรักษา
- เดหลีเป็นต้นไม้ที่รักความชื้นควรรดน้ำอยู่สม่ำเสมอ และควรรดมากขึ้นในเวลาที่อากาศร้อนและลดปริมาณน้ำลงเมื่อมีอากาศเย็น
- ควรให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแบบละลายน้ำ ฉีดพ่นเป็นละอองเบาๆ เพียงเดือนละ 1-2 ครั้ง
- ทำความสะอาดใบอยู่เสมอสามารถป้องกันแมลงได้
4.เข็มริมแดง
เป็นไม้ประดับที่มีลักษณะใบรูปทรงแปลกตา มีใบแหลมเป็นพุ่มแตกออกจากตอหรือลำต้น เป็นไม้ประดับที่เด่นด้วยสีสันของใบ ที่มีทั้งเขียว เหลือง แดงอยู่ในใบเดียวกัน แต่ขอบใบจะเป็นสีแดงซึ่งทำให้เป็นที่มาของชื่อ เป็นพืชที่มีความทนทานมาก ปลูกได้ดีแม้ในที่ที่มีแสงน้อย ที่สำคัญมีความสามารถสูงในการดูดสารพิษในอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารพิษจำพวกไซรีนและไตรครอโรเอทไทรีน
การดูแลรักษา
- เป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทาน ชอบน้ำแต่ไม่ถึงกับแฉะ หมั่นฉีดละอองน้ำให้ใบอยู่เสมอ
- วางในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงเพื่อให้มีใบที่สวยงาม
5. พลูด่าง
พลูด่างเป็นไม้เลื้อยที่ลำต้นมีรากงอกออกมาตามข้อ ใบกลมป้อมคล้ายรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบโค้งมนเล็กน้อย ใบมีสีเขียวและมีรอยด่างสีเหลืองอยู่ที่ใบทำให้ดูสวยงาม และนิยมใช้ปลูกประดับอาคารบ้านเรือนมานานแล้ว นิยมปลูกในกระถางแขวนหรือกระถางที่มีเสาเหล็กให้เลื้อยพันหรือให้เลื้อยตามโคนต้นไม้ใหญ่ ถ้าปลูกลงดินใบจะใหญ่มาก
การดูแลรักษา
- เป็นพืชที่ต้องการแสงอยู่พอสมควรไม่ว่าจะเป็นแสงแดงหรือแสงจากไฟนีออนดังนั้นควรวางอยู่ในตำแหน่งที่แดดส่องได้รำไร
- ฉีดน้ำหรือพ่นละอองน้ำอยู่เสมอหรือเช็ดใบด้วยผ้าเปียกหมาดๆ
6.ไทรใบเล็ก
เป็นพันธุ์ไม้พุ่มขนาดกลางตระกูลเดียวกับต้นยางอินเดีย แต่มีขนาดใบที่เล็กกว่า มีสีเขียวเข้มมันเงาขอบใบเรียบปลายแหลม เป็นไม้ประดับที่ปลูกง่าย ทนทาน ชอบแดดจัดถ้าปลูกไว้ในบ้านควรวางในที่ที่มีแสงแดดส่องจะเติบโตได้ดี ที่สำคัญมีคุณสมบัติดูดสารพิษได้ดี ให้ความชุ้มชื่นภายในบ้านได้ดีเพราะมีการคายน้ำได้สูง
การดูแลรักษา
- เป็นพืชที่ชอบแสงแดดมากควรวางไว้ที่ที่มีแดดส่องเต็มที่
- ไทรใบเล็กไม่ชอบน้ำขัง รดแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ
- ฉีดน้ำหรือพ่นละอองน้ำที่ใบเพื่อให้ความชุ่มชื้นแทน
7.มังกรคาบแก้ว
มังกรคาบแก้วเป็นไม้ประดับที่ปลูกเลี้ยงประดับได้เป็นสองแบบ คือในช่วงฤดูการเจริญเติบโตทางต้นและใบจะสวยงามคล้ายไม้ใบจำพวกกระบองเพชรที่มีใบสีเขียวหัวห้อยลง แต่เมื่อเข้าฤดูหนาวอากาศเย็นและกลางวันสั้นลง กลางคืนยาวนานจะกระตุ้นให้ออกดอกสีสันสวยงาม และดอกจะบานเต็มที่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ มังกรคาบแก้วเป็นไม้อวบน้ำในกลุ่มกระบองเพชร กิ่งและใบมีสีเขียวเข้ม ใบมีลักษณะแบน ขอบใบหยักคล้ายใบเสมา ดอกมีสีสดสวยและมีมากมายหลายชนิดหลายพันธุ์จึงมีสีสันต่างกันไป เช่น แดง ส้ม ม่วง เหลือง และชมพู ควรปลูกเลี้ยงให้ได้แสงจัด แต่ไม่ใช่แสงแดดโดยตรง ควรแขวนกระถางไว้ในที่ที่มีอากาศโปร่งถ่ายเทลมดี
การดูแลรักษา
- ควรปลูกเลี้ยงให้ได้แสงจัด แต่ไม่ใช่แสงแดดโดยตรง ควรแขวนกระถางไว้ในที่ที่มีอากาศโปร่งถ่ายเทลมดี
- รดน้ำวันละ 1 ครั้ง
- ใช้ปุ๋ยสูตร 8-30-15 หากจะให้ดอกดก หรือใช้สูตร 14-14-14 ควบคู่กับสูตร 8-24-24 ในช่วงฤดูหนาว
8. วาสนาราชินี
หรือมีอีกชื่อนึงว่า “วาสนาหยก” มีลักษณะรูปทรงขอลำต้นสวยงามและใบมีความเขียว มัน เงา เรียวโค้งได้รูปที่สวยงาม ลำต้นมีความสูงประมาณ 4-8 เมตร ลำต้นกลมตรง มีข้อถี่ ไม่มีกิ่งก้าน ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกจากลำต้นส่วนยอดเรียงซ้อนกันเวียนรอบลำต้นเป็นรูปวงกลมลักษณะใบเรียวยาว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยงเป็นมันสีเขียว ตัวใบโค้งงอ ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อยาวตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกมีขนาดใหญ่เป็นรูปทรงกลม ดอกมีขนาดเล็กอยู่รวมกันเป็นกลุ่มดอกมีสีขาวหรือเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมฉุน สามารถดูดสารพิษภายในอาคารจำพวกฟอร์มาดีไฮด์และไตรคลอโรเอทธีลีน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลรักษา
- ควรหมั่นรดน้ำเพื่อให้ดินชุ่มน้ำอยู่เสมอแต่อย่าให้แฉะ
- ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้ง
- หมั่นทำความสะอาดใบโดยใช้ผ้าเช็ดก็จะดี ช่วยป้องกันแมลงจำพวกเพลี้ยได้
สุดท้าย…หลักการวางต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน คือต้องเลือกวางในตำแหน่งที่มีแสงส่องถึงเพื่อให้กระบวนการฟอกอากาศของต้นไม้เต็มประสิทธิผล ไม่ว่าจะเป็นการคายน้ำ ดูดซึมน้ำ หรือดูดอากาศ และกระบวนการสังเคราะห์ก็ล้วนแต่ต้องใช้แสงแดดเป็นส่วนสำคัญ ส่วนระยะในการวางนั้น ให้คำนึงไว้ว่า เขตการหายใจของคนเราจะใช้พื้นที่ประมาณประมาณ 0.17-0.23 ลูกบาศก์เมตร หากวางต้นไม้ในเขตหายใจ ต้นไม้จะช่วยฟอกอากาศพิษจากร่างกายมนุษย์ได้ด้วย
สรุป
- ประโยชน์ของการมีต้นไม้ในบ้านนอกจากช่วยให้บรรยากาศดี ผ่อนคลาย
- ใช้เป็นงานอดิเรกใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัวรวม
- เป็นกิจกรรมยามว่างให้กับผู้สูงอายุได้ใช้สมาธิมากขึ้นในช่วงกักตัวนี้
- นอกจากการจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสำหรับการ WFH ตามหลัก Ergonomics แล้วต้นไม้ยังเป็นสิ่งที่ใช้พักสายตาจากการทำงานได้
- บางชนิดสามารถปลูกขายสร้างรายได้เสริมได้