Work From Home ป้องกันออฟฟิศซินโดรมด้วยหลัก Ergonomic

การทำงานที่บ้าน หรือ Work from home นั่งนาน นั่งไม่ถูกวิธี ก่อให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดศีรษะได้ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็น ออฟฟิศซินโดรม

แนะนำ 6 วิธี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมในขณะที่นั่งทำงาน Work from Home อาจเสี่ยงออฟฟิศซินโดรมมากขึ้น

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากนโยบาบทำงานที่บ้าน หรือ Work Form Home เพื่อขอความร่วมมือให้คนไทยอยู่บ้าน งดการเดินทาง หวังแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในขณะนี้ ซึ่งวัยทำงานจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบและสถานที่ในการทำงาน อีกทั้งอุปกรณ์สำนักงานในบ้านอาจไม่เพียงพอ หรือไม่เหมาะกับสรีระร่างกาย ลักษณะการนั่งที่ไม่ถูกวิธี อาจจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ตามมาได้

สัญญาณอันตรายที่อาจเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม 

1. ปวดหลังเรื้อรังจากการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมง โดยเฉพาะการนั่งหลังค่อม อาจทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก หรือที่พบได้บ่อยคือช่วง Lumbar ปวดเมื่อย และมีอาการเกร็งอยู่ตลอดเวลา ทำให้กระบังลมขยายได้ไม่เต็มที่
2. สมองที่ได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ จะส่งผลต่อศักยภาพในการทำงานไม่เต็มร้อย
3. ปวดศรีษะเรื้อรัง (Tension Headache) ที่สะสมจากความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความร้อนและการขาดฮอร์โมนบางชนิด
4. มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อค การอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ เส้นเอ็นและนิ้วมือ ซึ่งเกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ การจับเมาส์ในท่าเดิมนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบ เกิดพังผืดยึดจับบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ปวดปลายประสาท นิ้วล็อค หรือข้อมือล็อคได้

ออฟฟิศซินโดรม ออฟฟิศซินโดรม ออฟฟิศซินโดรม เป็นคำที่ได้ยินบ่อยขึ้นบ่อยขึ้นจากคนรอบตัวเพราะพฤติกรรมการทำงานต่อเนื่องระยะยาวเริ่มส่งผลให้เห็นกันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานสายโปรแกรมเมอร์ที่ต้องนั่งโค้ดทั้งวันแล้ว แทบจะไม่มีใครไม่เป็นอาการนี้เลย หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติการในการนั่งทำงาน อาการจะรุนแรงจนถึงขั้นหมอนรองกระดูกเสื่อม หรืออาจก่อให้เกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้เลยค่ะ ดังนั้นเรามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งทำงานเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นกันค่ะ

” แต่ในความเป็นจริงแล้วมีวิธีป้องกันอยู่เยอะแยะมากมาย หลักๆก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานให้ถูกต้องเหมาะสมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “

6 วิธีการปรับร่างกายช่วย Work form Home ป้องกันออฟฟิศซินโดรม 

วัยรุ่นที่อยู่ในช่วงวัยทำงานอย่างเราๆ สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองให้เหมาะสมในขณะนั่งทำงานได้ด้วย 6 วิธีดังนี้

1. หากใช้คอมพิวเตอร์ กึ่งกลางของจอควรอยู่ในระดับสายตา การพิมพ์งาน แป้นคีย์บอร์ด ควรอยู่ในระดับข้อศอก ข้อมือ ใช้เมาส์โดยพักข้อศอกบนที่รองแขน และสามารถเคลื่อนไหวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่
2. ขณะนั่งทำงาน ควรนั่งหลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ กะพริบตาบ่อยๆ พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 10 นาที เปลี่ยนท่าการทำงานทุก 20 นาที ยืดเหยียดกล้ามเนื้อมือและแขนทุก 1 ชั่วโมง
3. ปลูกต้นไม้ในร่ม ช่วยดูดซับสารพิษและเป็นที่พักสายตาจากการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์
4. กินอาหารให้ตรงเวลาและครบ 5 หมู่
5. ควรเปิดหน้าต่างที่บ้านเพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทบ้าง อย่างน้อยในตอนเช้าและพักกลางวัน
6. ปรับความสูงของเก้าอี้และโต๊ะให้เหมาะสมกับสรีระร่างกายของตัวเอง เพื่อความนั่งสบายและสุขภาพที่ดี-  เก้าอี้ ควรเป็นเก้าอี้ที่สามารถปรับความสูง-ต่ำ และปรับเข้ากับสรีระร่างกายของแต่ละบุคคลนั้นๆ ได้ นั่นก็คือเก้าอี้ Ergonomic chair หรือเก้าอี้แบบ “การยศาสตร์” คือเก้าอี้ที่ถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของมนุษย์ โดยคำนึงถึงการรักษาท่านั่งให้เหมาะสมกับร่างกายที่แตกต่างกันออกไป เพื่อลดปัญหาการเมื่อยล้าของการนั่งเป็นระยะเวลานาน ป้องกันไม่ให้เกิด Office Syndrome ได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะหาซื้อเก้าอี้แบบ Ergonomic chair ได้จากที่ไหน Elife ขอแนะนำเก้าอี้ Ergonomic Chair ที่ออกแบบมาเพื่อคุณ สามารถนั่งได้ทั้งคุณผู้หญิง และคุณผู้ชาย นั่งนานๆได้สบาย ไม่ปวดเมื่อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ สามารถทำให้รู้สึกดีได้ตลอดวัน ที่สำคัญราคาไม่สูงสามารถจับต้องได้

Ultra5 Ergo Chair เก้าอี้สุขภาพ ปรับได้ 5 ฟังก์ชั่น 

Ultra5 Ergonomic Chair เก้าอี้สุขภาพ สามารถปรับได้ 5 ฟังก์ชั่น เพื่อปรับให้เหมาะสมเข้ากับสรีระร่างกายของแต่ละคน ตามหลัก “การยศาสตร์” Ergonomic ตัวโต๊ะนั่งสบาย ตัวเบาะนั่งจะระบายอากาศไม่ร้อนอับชื้น เบาะรองหลังเป็นตาข่ายทอขึงพิเศษ ได้รับรองคุณภาพจากเยอรมัน เป็นแบรนด์  Krall+Roth สามารถมั่นใจในคุณภาพและความทนทาน ตัวโครงสร้างของเก้าอี้สอดรับกับร่างกายและน้ำหนักของแต่ละตัวบุคคล สามารถปรับเพื่อเปลี่ยนการซัพพอร์ตตามอิริยาบถในการนั่งทำงานได้ หรือเลือกที่จะนั่งพิงหลังเพื่อผ่อนคล้าย , นั่งอ่านหนังสือ , หรือนั่งเล่นเกมส์ก็ได้ ที่สำคัญมาพร้อมกับพนักพิงรองศีรษะด้วย

Ultra5 เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาเก้าอี้ที่ดีไซน์สดใสสวยงาม แต่คุณภาพระดับ Premium สามารถใช้เป็นเก้าอี้ในสำนักงาน  เก้าอี้ผู้บริหาร และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักและห่วงใยสุขภาพ มาพร้อมกับการปรับฟังก์ชั่นได้ 5 ฟังก์ชั่น เพื่อนให้เข้ากับสรีระร่างกาย , น้ำหนัก , อิริยาบท-กิจกรรมที่ใช้งานที่แตกต่างกัน ดีไซน์ดูเรียบ สดใส ดูมินิมอล ตกแต่งเข้าได้กับทุกๆ ห้อง โดยฟังก์ชั่นที่ปรับได้ 5 ฟังก์ชั่น ดังนี้

5 Functions

• สามารถปรับความสูง-ต่ำของเก้าอี้ด้วยระบบ Gas Hydraulic  (เท้าวางแตะพื้น)
• สามารถปรับระดับที่วางแขนเป็นแบบ 3 มิติ 3D Armrest  (แขนแนบลำตัว)
• สามารถปรับเบาะรองนั่งเลื่อนเข้า-ออก แนวลึกได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีสรีระช่วงตัวสูง ขายาว (นั่งหลังตรง)
• สามารถปรับเอนหลังได้ ที่สำคัญสามารถปรับล็อคระดับต่ำแหน่ง และปรับแรงต้านได้ทั้งหมด  4 ระดับ (ไหล่ไม่เกร็ง)
• ปรับระดับ Lumbar Support รับสรีระหลัง / และปรับระดับรองศรีษะ ให้เหมาะกับร่างกายของแต่ละคนได้ (มีส่วนที่ซัพพอร์ตหลังส่วนกลาง)

ซึ่งการปรับฟังก์ชั่นของ Ergo chair Elife รุ่น Ultra5 ถูกต้องและตรงกับคุณสมบัติของเก้าอี้ Ergonomic ที่จะทำให้หลายๆ คนที่มีนั่งผิดวิธีจนส่งผลให้มีอาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงานนานๆ ตามมาตามภาพด้านบนนั่นเอง

– โต๊ะทำงาน สำหรับใครที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอทั้งวัน วันนึงหลายๆ ชั่วโมง สิ่งที่จะไม่ตามมาเลยไม่ได้นั่นก็คืออาการปวดเมื่อย ปวดตา ปวดคอ บ่า ไหล่ ลามไปที่เอว และหลัง อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่คืออาการของโรคออฟฟิศซินโดรมนั่นเองค่ะ เมื่อเราพูดถึงเก้าอี้ Ergonomic กันไปแล้ว ก็ต้องมีโต๊ะ Ergonomic หรือโต๊ะปรับระดับได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม เมื่อต้นเหตุหลักๆ ของการเกิดเรื่อง คือการที่เรานั่งทำงานนานมากจนเกินไป ดังนั้นเรื่องโต๊ะทำงานจึงเป็นตัวเลือกแรกที่จะต้องใส่ใจเป็นอันดับแรกๆ และโต๊ะปรับระดับได้ จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้ชีวิตของการทำงานของพวกเราดีขึ้นค่ะ สำหรับโต๊ะทำงานปรับระดับไฟฟ้านั้นขอแนะนำเป็นรุ่น Raise3

ทีนี้มาถึงเรื่องของการใช้งานโต๊ะปรับระดับได้

1. โต๊ะปรับระดับได้ จะช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนอิริยาบถ จากนั่งสลับกับการยืนทำงาน หรือยืนสลับกับการนั่งได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เพียงแค่เลือกใช้งานโต๊ะปรับระดับ Raise3 วางแทนที่โต๊ะทำงานตัวเก่า ก็สามารถยืนหรือนั่งทำงานได้เลย
2. โต๊ะปรับระดับได้ที่ดี จะมีการออกแบบให้สามารถวางจอมอนิเตอร์ เมาส์ และคีย์บอร์ดได้อย่างถูกต้องตามหลัก Ergonomic หรือหลักการยศาสตร์ กล่าวคือจอจะถูกยกให้สูงถึงระดับสายตาไม่ว่าผู้ใช้งานจะนั่งหรือยืนอยู่ก็ตาม ส่วนคีย์บอร์ดก็จะถูกวางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากตัวโต๊ะสามารถปรับสูง-ต่ำ ได้หลายระดับตามความสูงของผู้ใช้งาน
3. การใช้ระบบมอเตอร์จะช่วยทุ่นแรงทำให้สามารถปรับระดับความสูงของโต๊ะได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว เราจึงสามารถโฟกัสไปที่การทำงานต่อได้อย่างทันที และด้วยโครงสร้างที่เป็นคาร์บอนสตีลจึงทำให้ตัวโต๊ะมีความมั่นคงแข็แรง ไม่สั่น แม้ว่าจะพิมพ์คีย์บอร์ดแรงขนาดไหนก็ตาม

หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งทำงาน อาการจะเริ่มรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทได้ ดังนั้นแทนที่เราจะเอาเงินไปหาหมอ เราเอาเงินมาซื้อสุขภาพที่ดีกันเถอะค่ะ เชื่อหมอ !! หมอเรียนมา