Link ตอนที่1 ตอนที่2 ตอนที่3 ตอนที่4 ตอนจบ
สกลนคร เป็นเมืองพุทธศาสน์ พระธาตุห้าแห่ง แหล่งอารยธรรมสามพันปี ตามตำนานเล่าว่า เมืองหนองหานหลวงในอดีต หรือสกลนครในปัจจุบันนั้น สร้างขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 16 ในยุคที่ขอมมีอำนาจในดินแดนนี้ ต่อมาเมื่ออิทธิพลขอมเสื่อมลง เมืองหนองหานหลวงตกไปอยู่ในความปกครองของอาณาจักรล้านช้าง เรียกชื่อเมืองว่า “เมืองเชียงใหม่หนองหาน” และเมื่อมาอยู่ในความปกครองของไทย ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองสกลทวาปี” ต่อมาในปี พ.ศ. 2373 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เปลี่ยนชื่อจากเมืองสกลทวาปี เป็น “เมืองสกลนคร” ในปัจจุบัน จังหวัดสกลนครยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “แอ่งธรรมะแห่งอีสาน” ดังเห็นหลักฐานได้จากวัดวาอารามเก่าแก่ที่มีอยู่มากมาย แสดงถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นถิ่นกำเนิดและพำนักของอริยสงฆ์ที่สำคัญเป็นที่เคารพบูชาของชาวไทยหลาย ท่าน อาทิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์วัน อุตตโม หลวงปู่หลุยจันทสาโร หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้น
ที่ตั้ง : ตำบลธาตุนาเวง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
สิ่งอำนวยความสะดวก
ทางลาด มีขนาดความกว้าง วัสดุพื้นผิว ความชันที่เหมาะสมและมีราวจับทำด้วยวัสดุเรียบ มั่นคง ไม่ลื่น
ห้องส้วม มีห้องส้วมอย่างน้อย 1 ห้อง อยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงได้สะดวก
ป้ายสัญลักษณ์ มีป้ายแสดงทางไปสู่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ระดับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ : พอใช้
ที่ตั้ง : 287 ม.2 ถ.นิตโย ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ. สกลนคร 47110
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องส้วม มีห้องส้วมสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ 1 ห้อง ไม่แยกเพศ
ทางลาด มีทางลาดบริเวณทางเข้าห้องน้ำ ความชันเหมาะสม พื้นเรียบไม่ลื่น
ป้ายสัญลักษณ์ มีป้ายสัญลักษณ์คนพิการหน้าห้องน้ำ
นครพนม เมืองนครแห่งอีสาน ดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขงแถบนี้ เดิมทีเป็นที่ตั้งของอาณาจักรศรีโคตรบูร ตัวเมืองตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำโขง(ฝั่งลาว) บริเวณทางใต้ปากเซบั้งไฟ ตรงข้ามกับพระธาตุพนมในปัจจุบัน สมัยรัชกาลที่ ๑ พ.ศ. ๒๓๓๓ เมื่อผู้ครองเมืองนครถึงแก่พิราลัย เมืองนครก็ได้ขอขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร โดยรัชกาลที่ ๑ พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “นครพนม” ชื่อนครพนมนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองลูกหลวงมาก่อน
และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จึงได้ใช้คำว่า “นคร” ส่วนคำว่า “พนม” ก็มาจากพระธาตุพนมปูชนียสถานที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน บ้างก็ว่ามรุกขนครเดิมที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงตั้งอยู่ในบริเวณที่มีภูเขาสลับซับซ้อน จึงนำคำว่า “พนม” ซึ่งแปลว่าภูเขามาใช้ ส่วนคำว่า “นคร” ก็เป็นการดำรงชื่อเมืองไว้คือ เมืองมรุกขนคร นครพนม
จึงหมายถึง “ เมืองแห่งภูเขา” นั่นเอง
ด้วย ความเป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาเก่าก่อนประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งอารยธรรมของมนุษยชาติ ดังนั้น นครพนมจึงมีโบราณสถานและมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นแบบอย่างของตัวเองอยู่มาก ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดหนองคายอย่างมากมาย
ที่ตั้ง : วัดพระธาตุท่าอุเทน ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
ตามประวัติที่จารึกไว้ที่กำแพงพระธาตุกล่าว ท่านอกจารย์สีทัตถ์ ได้เป็นหัวหน้า ชักชวนพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาร่วมกัน ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2454 ใช้เวลาทั้งสิ้น 6 ปีจึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2549 เป็นพระธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญของชาวนครพนมอีกแห่งหนึ่ง พระธาตุท่าอุเทนเป็นพระธาตุประจำวันศุกร์
พระธาตุมีลักษณะเป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม สูง 33 วา จำลองแบบ มาจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในองค์ธาตุมีอุโมงค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพระอาจารย์สีทัตถ์ นอกจากนี้ยังมี พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าอื่นๆ ที่ผู้ศรัทธานำมาถวายบรรจุไว ้
ในองค์พระธาตุด้วย บนกำแพงแก้วรอบองค์พระธาตุมีประติมากรรมปูนปั้น ฝีมือของพระอาจารย์ สีทัตถ์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุภาษิตคำพังเพย พื้นบ้านตลอดจนการจำลองนรกสวรรค์
ที่มา : http://www.thai-tour.com/
สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ
ทางเดินเชื่อม อยู่ในระดับเดียวกับพื้นภายนอกมีการยกระดับหรือทำขอบกั้นบางพื้นที่
ห้องส้วม จัดให้มีห้องส้วมไว้เฉพาะ อยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงได้สะดวก
บันได มีราวจับมั่นคง ไม่ลื่นทั้ง 2 ข้าง
ที่จอดรถ ไม่มีที่จอดรถเฉพาะของคนพิการ แต่ที่จอดรถเป็นลานกว้างที่ค่อนข้างใกล้ตัวพระธาตุ
ป้ายสัญลักษณ์ มีป้ายสัญลักษณ์บอกตำแหน่งห้องส้วมคนพิการและผู้สูงอายุ
ราวจับ มีราวจับบริเวณบันไดและห้องส้วม
ระดับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ : พอใช้
ที่ตั้ง : วัดธาตุศรีคุณ บ้านนาแกน้อย หมู่ 3 ตำบลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม
วัดพระธาตุศรีคุณ สร้างมานานแล้ว แต่เพิ่งมาค้นพบเมื่อ พ.ศ.2340 สร้างเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน ผู้ที่ค้นพบคือกลุ่มชาวบ้านที่เป็นชาวลาวอพยพมาอยู่ในนาแก จะสร้างหมู่บ้านจึงพบองค์พระธาตุร้าง และต่อมาจึงมีการสร้างวัดพระธาตุ เมื่อ พ.ศ.2421 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2431
ลักษณะของ พระธาตุคล้ายกับพระธาตุพนม ภายในบรรจุพระอรหันต์ธาตุของพระโมคคลานะ พระสารีบุตรและพระสังกัจจายนะ ภายในวัดมีหลักฐานสำคัญคือพระธาตุศรีคุณ หอแจกเป็นหอแจกแบบโปร่ง ยกพื้นสูง ผนังเปิดโล่งทั้ง 3 ด้าน สร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.2472 พระธาตุศรีคุณนี้ถือเป็น พระธาตุประจำวันอังคาร
ที่มา : http://www.thai-tour.com/
สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ
ทางเดินทางเชื่อม พื้นผิวทำจากวัสดุไม่ลื่น ไม่มีสิ่งกีดขวาง แต่มีการยกระดับพื้นไม่สูงมากนักในบางพื้นที่ สามารถเข้าถึงองค์พระธาตุโดยตรง
ทางลาด มีทางลาด
บันได พื้นผิววัสดุไม่ลื่น
ที่จอดรถ ไม่มีที่จอดรถเฉพาะของคนพิการ แต่ที่จอดรถเป็นลานกว้างที่ใกล้จากตัวพระธาตุมาก
ระดับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ : พอใช้
สิ่งอำนวยความสะดวก
ทางลาด มีทางลาดเข้าสู่อาคารและมีทางลาดชั่วคราวจัดไว้ให้บริเวณที่มีพื้นต่างระดับ
ห้องพักและห้องน้ำภายในห้องพัก ไม่ได้จัดห้องพักเฉพาะไว้ ภายในห้องไม่มีพื้นต่างระดับคนพิการและผู้สูงอายุสามารถใช้ได้
ทางเดินเชื่อม พื้นผิวทำจากวัสดุไม่ลื่น แต่ไม่อยู่ในระดับเดียวกับพื้นภายนอก
ระดับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ : พอใช้