fbpx

การเลือกหน้ากาก CPAP ที่เหมาะสม มีความสำคัญอย่างไร

การเลือกหน้ากาก CPAP ที่เหมาะสม มีความสำคัญอย่างไร

หน้ากากสำหรับเครื่องช่วยหายใจ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อผู้ป่วยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประกอบการรักษา ซึ่งในบทความนี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านได้ทราบถึงรายละเอียดหน้ากากสำหรับเครื่องช่วยหายใจแต่ละประเภท ว่ามีข้อแตกต่างอย่างไรบ้าง

การเลือกหน้ากาก CPAP ที่เหมาะสม มีความสำคัญอย่างไร

หลังจากที่เข้ารับการตรวจการนอนหลับ (sleep test) และได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ เมื่อแพทย์แนะนำการรักษาด้วยการใช้เครื่อง CPAP ขั้นตอนที่สำคัญในลำดับต่อไป คือการตั้งค่าเครื่อง CPAP ให้ถูกต้องกับผลการตรวจการนอนหลับ รวมทั้งเลือกหน้ากากให้เหมาะกับรูปใบหน้าและสรีระ ในบางท่านแพทย์อาจจะเลือกชนิดของหน้ากากที่เหมาะสมกับผลที่ได้จากการตรวจการนอนหลับให้เลย แต่ในคนส่วนใหญ่ เราจะมีโอกาสเลือกชนิดของหน้ากากให้เข้าได้กับรูปใบหน้าหรือท่านอนได้ เพื่อให้ใส่หน้ากากนอนได้สบายและลมไม่รั่วออกจากหน้ากากขณะนอนหลับ

อย่างไรก็ตาม เราควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการเลือกหน้ากากที่เหมาะสม แพทย์จะแนะนำให้นำเครื่อง CPAP พร้อมหน้ากากไปทดลองนอนที่บ้าน แนะนำข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวัง ความแตกต่างของหน้ากากแต่ละแบบ และประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากที่ทดลองใช้เครื่อง CPAP แพทย์จะนัดติดตามการใช้งาน เพื่อตรวจสอบค่าสถิติต่างๆของการนอนที่เครื่อง CPAP บันทึกไว้ เช่น ค่าการหยุดหายใจขณะหลับ (AHI) และค่าการรั่วหน้ากาก ปรับการตั้งค่าเครื่อง CPAP หรือปรับเปลี่ยนหน้ากากให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้เรานอนหลับได้อย่างสบายและได้รับประสิทธิภาพจากการรักษาด้วยเครื่อง CPAP สูงที่สุด

หน้ากาก CPAP ส่วนใหญ่แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

  • หน้ากากแบบเต็มใบหน้า (Full mask) มีขนาดใหญ่ โดยมีกรอบพลาสติกและซิลิโคนครอบทั้งบริเวณจมูกและปาก

ข้อดีของหน้ากากชนิดครอบจมูกและปาก (Full mask)

หน้ากากชนิดนี้เหมาะสำหรับคนที่มักหายใจทางปากขณะที่นอนหลับ มีลมรั่วออกทางปากจากการใส่เครื่อง CPAP นอกจากนั้นหน้ากากยังเหมาะกับคนไว้หนวดและเครา เนื่องจากหากใส่หน้ากากชนิดนี้ทำให้โอกาสลมรั่วน้อยกว่าหน้ากากชนิดที่ครอบจมูก (nasal mark หรือ under pillow mask) เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม หน้ากากชนิดนี้จะมีขนาดใหญ่ และใส่สบายน้อยกว่าหน้ากากชนิดอื่น ทำให้ผู้สวมใส่อาจเผลอถอดหน้ากากขณะที่นอนหลับไปแล้ว หรือไม่อยากใส่เครื่อง CPAP


  • หน้ากากแบบครอบจมูก (nasal mask) ครอบเฉพาะบริเวณจมูก โดยมีกรอบพลาสติกและซิลิโคนครอบบริเวณจมูกและเหนือริมฝีปากบน

ข้อดีของหน้ากากชนิดครอบจมูก (nasal mask)

หน้ากากชนิดนี้ครอบเฉพาะบริเวณจมูก มีผู้นิยมใช้มากที่สุด เพราะ ใส่สบาย โอกาสเกิดลมรั่วน้อย ใช้งานได้ทนทาน ราคาประหยัด ต้องการใช้แรงดันลมจากเครื่อง CPAP น้อยกว่า


  • หน้ากากแบบใต้จมูก (nasal pillow mask) หน้ากากชนิดนี้จะวางตัวอยู่บริเวณใต้จมูก เหนือริมฝีปากบน และไม่มีกรอบพลาสติกและซิลิโคนไปกดที่สันจมูก

ข้อดีของหน้ากากชนิดใต้จมูก (nasal pillow mask)

หน้ากากชนิดนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบมีอะไรมาครอบที่จมูก หรือมีซิลิโคนกดบริเวณสันจมูกและหน้าผาก มีข้อดีหลายอย่าง ได้แก่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมบนเตียงก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ เล่นคอมพิวเตอร์ หรือดูหนัง เพราะไม่มีหน้าการครอบจมูกมากีดขวางสายตาและการมองเห็น เหมาะสำหรับคนที่กลัวที่แคบ ไม่อยากมีอะไรมาครอบจมูก ใส่และถอดง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ

หน้ากากชนิดใต้จมูกจะมี 2 แบบ คือ แบบที่วางไว้ใต้จมูกเฉยๆ กับแบบที่มีจุกใส่เข้าไปในรูจมูกด้วย ซึ่งแบบที่มีจุกใส่เข้าไปในรูจมูกจะทำให้ลมเข้าได้ดีกว่า และโอกาสที่จะเกิดลมรั่วได้น้อยกว่า แต่ข้อควรระวังคือ หน้ากากชนิดนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่เนื้อจมูกมากพอ ปลายจมูกไม่เชิด เพราะหน้ากากชนิดนี้ต้องอาศัยส่วนล่างของจมูกในการยึดเกาะ หากเนื้อจมูกไม่มากพอจะทำให้ลมรั่วได้ง่าย เราจึงแนะนำให้ทดลองหน้ากากชนิดใต้จมูก (nasal pillow) ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะหน้ากากชนิดนี้มีโอกาสมีลมรั่วได้ง่ายกว่าหน้ากากชนิดอื่น


การเลือกหน้ากาก CPAP ให้เหมาะสมกับท่านอน

หน้ากาก CPAP ที่กล่าวมาทั้ง 3 ประเภท สามารถใช้งานได้ดีในท่านอนหงาย และนอนตะแคง เพราะหน้ากากทุกประเภทมีสายรัดบริเวณศีรษะที่สามารถปรับให้กระชับ ทำให้โอกาสที่จะเกิดลมรั่วได้น้อย สายรัดศีรษะหรือที่เรียกว่า head gear มีหลายแบบ คุณสามารถเลือกแบบที่ชอบ และใส่กระชับ ไม่มีแรงที่กดลงบนใบหน้า จมูก หรือ หน้าผากมากจนเกินไป

หน้ากากที่เหมาะสมสำหรับท่านอนคว่ำ คือหน้ากากแบบใต้จมูก (nasal pillow mask) เพราะหน้ากากชนิดนี้ไม่มีกรอบพลาสติกบริเวณรอบจมูกและที่หน้าผาก ทำให้ไม่มีการกดทับบริเวณใบหน้า สามารถใส่นอนคว่ำได้

Check list การเลือกหน้ากากที่เหมาะกับตัวคุณ

  • ท่านอนที่คุณนอนประจำ (นอนหงาย นอนตะแคง นอนคว่ำ)
  • ชอบหายใจทางจมูกหรือปาก
  • ไว้หนวดและเคราหรือไม่
  • ชอบทำกิจกรรมบนเตียงก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ เล่นคอมพิวเตอร์ หรือดูหนัง หรือไม่
  • กลัวที่แคบ ไม่อยากมีหน้ากากมาครอบบริเวณจมูกและปากหรือไม่

สรุป

คุณอาจจะรู้สึกสับสนในการเลือกหน้ากากในช่วงแรก เป้าหมายสำคัญของการเลือกหน้ากาก คือมีหน้ากากที่ใส่สบาย ไม่มีลมรั่ว และเข้าได้กับความเป็นตัวคุณ กรุงเทพ สลีป เซ็นเตอร์ หวังว่าบทความนี้ให้รายละเอียดในการเลือกหน้ากากที่เหมาะสมได้พอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเลือกซื้อหน้ากาก ควรจะทดลองใส่นอนจริงๆ 2-3 คืนก่อนตัดสินใจ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่อง CPAP เพื่อให้คำแนะนำ และตรวจติดตามค่าการใช้เครื่อง CPAP ปรับหน้ากากให้เหมาะสม ตามผลที่อ่านได้จากเครื่อง เพียงแค่นี้คุณจะได้ใส่ CPAP นอนหลับได้สบายและมีประสิทธิภาพจากการใช้งานสูงที่สุด