ช่วงฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคุณค่าทางอาหารที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยเรื่องบาดแผลทั้งภายนอก และภายในร่างกายให้เนื้อเยื่อสมานติดกัน ซึ่งผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดสามารถฟื้นฟูร่างกายกลับสู่สภาพที่แข็งแรง และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันเช่นเดิมได้อย่างรวดเร็ว
- น้ำ
ถึงแม้ว่าน้ำจะไม่จัดเป็นสารอาหาร แต่น้ำเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกายที่สำคัญ น้ำเป็นกลไกสำคัญต่อการสมานแผล เมื่อร่างกายมีความชุ่มชื้นเซลล์ผิวหนังก็จะสามารถเคลื่อนที่จากขอบแผลมาปิดคลุมบาดแผลได้ดี ซึ่งถ้าหากร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำก็จะยิ่งทำให้เซลล์ผิวหนังตายและเพิ่มความเจ็บปวดได้ ดังนั้นควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นนั่นเอง
- โปรตีน
หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่ากินเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อ นม ไข่ แล้วจะทำให้แผลหายช้า ขอบอกเลยว่าไม่จริง! เพราะสารอาหารประเภทโปรตีนมีประโยชน์ในการสร้างเนื้อเยื่อ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย อีกทั้งยังทำให้เซลล์ประสานตัวเป็นเนื้อเดียวกัน ช่วยให้ผิวหนังที่สร้างขึ้นใหม่มีความแข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลติดเชื้อได้อีกด้วย หลังการผ่าตัดหรือศัลยกรรมร่างกายควรได้รับโปรตีนให้ได้อย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว ซึ่งเราสามารถเลือกกินโปรตีนจากเนื้อปลา ไข่ โยเกิร์ต ธัญพืช และถั่วต่างๆ ได้
- ธาตุเหล็กและสังกะสี
เพราะเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสมานแผลได้ดี ช่วยสังเคราะห์โปรตีนและคอลลาเจน แถมยังช่วยผลิตเซลล์ผิวใหม่และช่วยสมานบาดแผลได้อีกด้วย หากอยากฟื้นตัวได้เร็วขึ้นควรกินธาตุเหล่านี้อย่างน้อยวันละ 15 มิลลิกรัม ซึ่งพบได้ในอาหารจำพวก ปลา ไข่ อาหารทะเล ผักใบเขียว และถั่วเหลือง เป็นต้น
- ไขมันดี
นอกจากจะให้พลังงานสูงแล้วยังช่วยสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานในการสร้างและซ่อมแซมเยื้อหุ้มเซลล์ได้อีก แถมยังมีส่วนช่วยให้แผลสมานได้เร็วขึ้น ซึ่งไขมันดีนั้นพบได้ในน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันงา หรืออาหารจำพวกถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง
- วิตามินซี
เรียกได้ว่าเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังเป็นสารที่ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยเรื่องความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด ทำให้บาดแผลสมานตัวได้เร็วขึ้น ลดอาการบวมช้ำ อักเสบ โดยเราสามารถกินวิตามินซีได้จากผัก ผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ กีวี บร็อกโคลี ซึ่งในการพักฟื้นรักษาตัวนั้น ร่างกายควรได้รับวิตามินซีไม่น้อยไปกว่าวันละ 100-200 มิลลิกรัม
และจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยเช่น เตียงไฟฟ้าเพื่อที่จะทำให้การพักฟื้นเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยและความสะดวกของผู้ดูแล ทั้งนี้ทั้งนั้นเราควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ทานยาให้ตรงตามที่แพทย์สั่ง ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือกำลังใจจากคนรอบข้าง ครอบครัว ผู้ป่วยเมื่อมีแรงกำลังใจดีอาการเจ็บป่วยก็บรรเทาเร็วขึ้นแน่นอนค่ะ