ปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งเทคโนโลยี หรือเรียกได้ว่าเป็นยุคออนไลน์ ผู้คนมากมายส่วนใหญ่ล้วนรู้จักกับโลกออนไลน์เป็นอย่างดี ตอนนี้คนไทยหลายๆ คน ก่อนจะซื้อสินค้าอะไร มักจะใช้วิธีการค้นหาจากอินเตอร์เน็ตหรือพี่กู (กูเกิ้ล) Google เพื่อเช็คราคา และหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการซื้อกันก่อนเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ และส่วนใหญ่คนไทยมักจะชอบสั่งสินค้าออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกัน เนื่องจากง่าย สะดวกสบาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเลื่อนดูข้อมูลผ่านจอโทรศัพท์มือถือและคลิกสั่งสินค้าได้เพียงปลายนิ้ว แต่ก่อนจะสั่งซื้อสินค้าที่ราคาหลักหมื่น ต้องผ่านกระบวนการคิดและการตัดสินใจ แน่นอนสิ่งแรกคือต้องคำนึงถึงรายละเอียดข้อมูลของสินค้าเหล่านั้นอย่างละเอียด ลูกค้าหลายๆ ท่าน ก็มักจะมีคำถามมากมายที่ยังไม่เข้าใจสักเท่าไหร่นักเกี่ยวกับรถเข็นไฟฟ้า และวิธีการเลือกรถเข็นไฟฟ้าที่เหมาะสม สะดวก สบาย และใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เรามีคำตอบค่ะ
สารบัญคำถามที่พบบ่อยสำหรับมือใหม่ที่กำลังเลือกซื้อรถเข็นไฟฟ้าเพื่อการใช้งานคุ้มค่าที่สุด
- รถเข็นไฟฟ้ามีน้ำหนักเบาที่สุดกี่กิโลกรัม ?
- รถเข็นไฟฟ้ารับน้ำหนักได้สูงสุดเท่าไหร่ ?
- รถเข็นไฟฟ้าสามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ?
- รถเข็นไฟฟ้าสามารถพับเก็บได้หรือไม่
- รถเข็นไฟฟ้ามีการรับประกัน หรือบริการหลังการขาย ?
- อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ใช้ได้นานแค่ไหน ?
- เลือกรถเข็นไฟฟ้าแบบไหนจึงจะเหมาะกับผู้ใช้งาน ?
- รถเข็นไฟฟ้ารุ่นไหนที่ผู้สูงอายุ หรือคนแก่เลือกใช้งาน ?
- ทำไมรถเข็นไฟฟ้าล้อใหญ่ถึงหนัก ?
- มีหน้าร้านสามารถทดลองสินค้าได้หรือไม่ ?
- มีบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศไทยหรือไม่ ?
- รถเข็นไฟฟ้าสามารถใช้งาน หรือรถเข็นไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนบนพื้นผิวที่ขรุขระได้หรือไม่ ?
- หากรถเข็นไฟฟ้ามีปัญหา แก้ไขอย่างไรได้บ้าง
- ซื้อรถเข็นไฟฟ้าสามารถออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินได้หรือไม่ ?
- ซื้อรถเข็นไฟฟ้ากับ Elife ดีกว่าอย่างไร ?
คำถามเหล่านี้ มักจะเป็นคำถามที่ลูกค้าสอบถามข้อมูลกันเข้ามากันบ่อยที่สุด เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถเข็นไฟฟ้า ผู้ซื้อต้องทราบข้อมูลรถเข็นไฟฟ้าอย่างละเอียด เนื่องจากหากซื้อรถเข็นไฟฟ้าไปใช้งานแล้ว ต้องได้ใช้ประโยชน์จากรถเข็นไฟฟ้าสูงสุด และคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องเสียไป เรามาตอบคำถามเหล่านี้กันเลยดีกว่าค่ะ
A : เมื่อหลายปีที่แล้วรถเข็นไฟฟ้า น้ำหนักเบาสุดจะอยู่ที่ 29 กิโลกรัม สำหรับเมื่อก่อนถือว่าค่อนข้างเบาที่สุดแล้ว และปัจจุบันนี้ ร้านรถเข็นไฟฟ้า Elife ได้มีการพัฒนารถเข็นไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและระบบดีขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด จึงได้ผลิตและจัดจำหน่ายรถเข็นไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาด้วยกันถึง 4 รุ่น โดยเรียกกลุ่มรถเข็นไฟฟ้ากลุ่มนี้ว่า กลุ่ม Lite หรือที่เรียกว่าน้ำหนักเบานั่งเอง โดยรถเข็นไฟฟ้ากลุ่ม Lite มีน้ำหนักเบาที่สุด 13.5 กิโลกรัม และน้ำหนัก หนักที่สุดอยู่ที่ 18 กิโลกรัมนั่นเอง โดยแต่ละรุ่นนั้นจะมีสเปคที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
- รุ่น Lite1 รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา 13.5 กิโลกรัม รุ่นนี้เป็นรุ่นที่น้ำหนักเบาที่สุดในตลาดตอนนี้ค่ะ รถเข็นไฟฟ้ารุ่น Lite1 โครงสร้างทำจากแม็กนีเซียม หรือเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้ผลิตปีกเครื่องบิน ซึ่งคุณสมบัติก็คือน้ำหนักเบา โครงสร้างแข็งแรง รับน้ำหนักได้สูงถึง 120 Kg. แบตเตอรี่รุ่นนี้เป็นลิเธียมไอออน ซึ่งสามารถพกพาเดินทางโดยเครื่องบินได้ ถูกต้องตามหลักการบินพลเรือน รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ลูกค้านิยมเลือกใช้กันเป็นอย่างมาก เพราะมีน้ำหนักที่เบามากๆ สามารถยกใส่ท้ายรถได้สบาย รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบาต้องยกให้ Lite1 เป็นอันดับ 1 ค่ะ
- รุ่น Lite pro รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา 16 กิโลกรัม ซึ่งรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้มีน้ำหนักเบารองลงมา และขอแนะนำเลยว่ารถเข็นไฟฟ้ารุ่น Lite pro มีสมรรถนะที่สูง รับน้ำหนักได้สูงถึง 120 กิโลกรัม และที่สำคัญคุณภาพดีมากๆ การขับเคลื่อนสมูท เหมาะสำหรับผู้สูงอายุใช้งาน แบตเตอรี่เป็นแบตลิเธียมไอออน สามารถพกพาเดินทางท่องเที่ยวได้ เดินทางโดยเครื่องบินได้ เพราะสามารถพับเก็บได้เล็กที่สุด และกระทัดรัดมากๆ ยกใส่ท้ายรถได้ง่าย จุดเด่นของรถเข็นไฟฟ้ารุ่น Lite pro มี Joystick(ตัวบังคับ) 2 ตัว ตัวแรก ที่ติดมากับตัวรถบังคับโดยผู้นั่ง ตัวที่สอง Wireless บังคับโดยผู้ดูแล หรือสามารถให้ผู้อื่นบังคับให้ได้ รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่มีตัวบังคับไร้สายและที่สำคัญคุณภาพดีมากๆ อีกด้วย
- รุ่น Lite plus รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา 18 กิโลกรัม รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ชูนวัตกรรมสุดๆ คือหน้าจอเป็นดิจิตอล สามารถเปิดวิทยุฟังได้ เชื่อมต่อบลูทูธเพื่อฟังเพลงได้ เหมาะสำหรับสายสุนทรีย์มากๆ ขับรถเข็นไฟฟ้าไปแถมยังได้นั่งฟังเพลงอีกด้วย รุ่นนี้แบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน สามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้อีกเช่ากัน จุดเด่นที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือรถเข็นไฟฟ้ารุ่น Lite plus สามารถพับเก็บและมีที่จูงลากเหมือนกระเป๋าเดินทางได้อีกด้วย
-
LithiumLite นน.เบา
Lite1 | รถเข็นไฟฟ้าผู้สูงอายุเบาเพียง 13.5Kg พับใส่รถ ขึ้นเครื่องบิน
Original price was: 59,900฿.29,900฿Current price is: 29,900฿. Add to cart -
HotLithiumBrushlessรีโมท2ตัวLite นน.เบา
Lite7 | รถเข็นไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว เบาเพียง 16Kg บังคับ Wireless
Original price was: 63,900฿.35,900฿Current price is: 35,900฿. Add to cart
โดยปกติแล้ว รถเข็นไฟฟ้าจะมีกำลังมอเตอร์ข้างละ 250 Wat (วัตต์) นั่นแปลว่าสามารถรองรับน้ำหนักผู้นั่งได้สูงถึง 150 กิโลกรัม และยังสามารถขับเคลื่อนได้ดี และมีกำลังมอเตอร์มากพอที่จะขับขึ้นทางลาดชันได้ ดังนั้น รถเข็นไฟฟ้า จะรับน้ำหนักได้สูงถึง 100-150 กิโลกรัม หากผู้สูงอายุ คนแก่ หรือคนพิการ มีน้ำหนักถึง 120 กิโลกรัม ก็แปลว่าใช้งานได้ สบายมากๆ ค่ะ
รถเข็นไฟฟ้าสามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้ค่ะ เบื้องต้นขออธิบายก่อนว่าปกติตัวรถเข็นไฟฟ้าเอง สามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้อยู่แล้วแน่นอน แต่..กฎการบินพลเรือนมีข้อกำหนดไว้ว่าการพกพารถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินนั้น แบตเตอรี่จะต้องถอดออกจากตัวรถเข็นไฟฟ้าได้โดยง่าย เพื่อพกแบตเตอรี่ Carry on board (พกใส่กระเป๋า) นำขึ้นเครื่องบินไปด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้นยังกำหนดไว้อีกว่า แบตเตอรี่รถเข็นไฟฟ้าที่สามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้นั้นแบตเตอรี่จะต้องเป็นแบตเตอรี่ประเภทลิเธียมไอออนเท่านั้น และความจุของแบตเตอรี่จะต้องไม่เกินกว่าที่สายการบินกำหนด (300Wh) หากเราต้องการพกพารถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินด้วย แนะนำให้แจ้งทางสายการบินก่อนทุกครั้งค่ะ
รถเข็นไฟฟ้าทุกรุ่นของ Elife สามารถพับเก็บได้ทุกรุ่น เนื่องจากดีไซน์รถเข็นไฟฟ้าของเราถูกออกแบบมาให้เหมือนเก้าอี้รถเข็นไฟฟ้า มากกว่าจะเป็นวีลแชร์ (Wheelchair) ธรรมดาๆ ทั่วๆไป ซึ่งดีไซน์จะถูกใจวัยรุ่นหนุ่่มสาว และผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เพราะดีไซน์รถเข็นไฟฟ้า Elife ของเราทันสมัย และที่สำคัญโครงสร้างแข็งแรง และใช้งานได้เป็นอย่างดี
รถเข็นไฟฟ้าสินค้ามีรับประกัน 2 ปี ทางเรามีใบรับประกันสำหรับรถเข็นไฟฟ้าให้กับลูกค้าไว้ 1 ชุด และเก็บไว้กับ Elife อีก 1 ชุด เพื่อเป็นหลักฐานระหว่างเราและลูกค้าว่ารถเข็นไฟฟ้ามีการซื้อขายกันตั้งแต่เมื่อไหร่ และเริ่มต้นและสิ้นสุดวันรับประกันเมื่อไหร่ และที่สำคัญรถเข็นไฟฟ้าของ Elife เอง เป็นสินค้าสั่งผลิตเองโดยตรง มีโรงงานผลิต ดังนั้นอะไหล่ทุกชิ้นส่วน เรามีบริการสำหรับลูกค้าที่ใช้รถเข็นไฟฟ้า Elife โดยเฉพาะ หากในอนาคตใช้งานจนเสื่อมสภาพแล้ว สามารถส่งรถเข็นไฟฟ้าให้เราซ่อมบำรุงและดูแลได้ตลอดอายุการใช้งานเลยค่ะ
ปกติแล้ว แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานได้นาน 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับดูแลของแต่ละท่าน หากเราไม่ปล่อยให้รถเข็นไฟฟ้าใช้งานจนแบตหมดเกลี้ยงแล้วดับบ่อยๆ จะยืดอายุการใช้งานของแบตได้นาน เปรียบเหมือนแบตโทรศัพท์มือถือหากใช้งานหนักจนทำให้แบตหมดจนเครื่องดับ มีโอกาสทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้น หรือหากรถเข็นไฟฟ้าไม่ได้ใช้งานนานๆ แนะนำว่า 1 เดือน ให้นำแบตเตอรี่ออกมาชาร์จแบตทิ้งไว้ 1-2 ครั้ง และหลังจากนั้นดึงขั้วแบตเตอรี่ออกจากรถเข็นไฟฟ้าด้วย ก็จะช่วยทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นค่ะ และทุกๆ การชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง จะใช้งานได้นานต่อเนื่อง 25-27 กิโลเมตรค่ะ แต่แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้กับรถเข็นไฟฟ้าอยู่ 2 ประเภท
1. แบตลิเธียมไอออน (Lithium-Ion ) เป็นแบตประเภทเดียวกับแบตโทรศัพท์มือถือ ข้อดีของแบตเตอรี่ประเภทลิเธียมไอออน คือแบตเตอรี่ จะมีน้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย ไม่หนัก และที่สำคัญจะสามารถเก็บประจุไฟได้ดี ใช้งานได้ยาวนานกว่าแบตแห้งตะกั่วกรด (Lead Acid) แต่ข้อเสียของแบตเตอรี่ประเภทลิเธียมไอออนนั้นราคาจะค่อนข้างสูง และที่สำคัญรถเข็นไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ประเภทลิเธียมไอออน สามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้
2. แบตแห้งตะกั่วกรด (Lead Acid) แบตแห้งหรือแบตตะกั่วกรด จะเป็นแบตแห้งประเภทเดียวกับแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น แต่จะมีขนาดใหญ่และหนัก ส่วนใหญ่รถเข็นไฟฟ้าที่ใช้แบตแห้ง จะมีราคาที่ไม่สูงมากนัก เนื่องจากผู้ใช้งานไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพกพารถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน
” เน้นใช้งานในบ้านหรือบริเวณบ้าน “ เบื้องต้นให้สำรวจความต้องการของผู้ใช้งานและผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้พิการเป็นหลักที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน บางคนต้องการรถเข็นไฟฟ้าที่ใช้งานภายในบริเวณบ้าน ไม่ต้องมีการยกหรือเคลื่อนย้าย สามารถเลือกซื้อรถเข็นไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเยอะได้ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้งานนอกบ้านบ่อยๆ ราคาก็จะประหยัดลง ช่วยให้เซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะ เนื่องจากโครงสร้างผลิตจากคาร์บอนสตีล และโครงสร้างทำจากอลูมิเนียม มีความเหนียว หนา แข็งแรง รับแรงกระแทกได้ดี
” เน้นนำไปใช้งานนอกสถานที่เป็นประจำ “ หากการใช้งานเน้นพกพา นำไปใช้นอกสถานที่ ต้องเลือกใช้งานรถเข็นไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบา คนยกจะได้สะดวกเพราะรถเข็นไฟฟ้าไม่หนักมาก และโครงสร้างรถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบาเป็นโครงสร้างเกรดพรีเมียม วัสดุมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา รับน้ำหนักผู้นั่งได้สูงถึง 120 กก. รถเข็นไฟฟ้าของ Elife มีสินค้าประเภทน้ำหนักเบาอยู่ด้วยกันทั้ง 3 รุ่นตามคำถามที่พบบ่อยในข้อ 1 ด้านบน มีดังนี้
-
LithiumLite นน.เบา
Lite1 | รถเข็นไฟฟ้าผู้สูงอายุเบาเพียง 13.5Kg พับใส่รถ ขึ้นเครื่องบิน
Original price was: 59,900฿.29,900฿Current price is: 29,900฿. Add to cart -
HotLithiumBrushlessรีโมท2ตัวLite นน.เบา
Lite7 | รถเข็นไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว เบาเพียง 16Kg บังคับ Wireless
Original price was: 63,900฿.35,900฿Current price is: 35,900฿. Add to cart -
LithiumBrushlessAutoLockPro คุณภาพสูง safety
Pro3 | รถเข็นไฟฟ้า เบา 18.5 Kg นั่งสบาย Safety Brake
Original price was: 79,900฿.55,900฿Current price is: 55,900฿. Add to cart
*ข้อแนะนำ : ไม่ควรเลือกรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ให้กับผู้ใช้ที่มีขนาดตัวเล็กเพราะจะทำให้ในการใช้งานโดยเฉพาะเวลาขับขี่ตัวของผู้ใช้จะไม่กระชับกับที่นั่งซึ่งนั่นอาจทำให้ตัวของผู้ใช้โครงเครงในระหว่างที่ขับขี่เลี้ยวรถ หรือขับขี่บนทางขรุขระ และเนื่องจากรถเข็นไฟฟ้ารุ่นที่มีที่นั่งขนาดใหญ่นั้นก็จะมีคุณสมบัติที่สามารถรับน้ำหนักได้เยอะ และตัวโครงสร้างก็จะใหญ่และมี่น้ำหนักมากกว่ารถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดเล็ก ตัวอุปกรณ์ไฟฟ้าและโครงสร้างก็จะมีการออกแบบมาให้รับน้ำหนักของผู้นั่งได้มากตามขนาดของที่นั่งด้วย เช่นรถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดที่นั่งใหญ่ก็จะมักจะมีมอเตอร์ที่มีกำลังมากกว่ารถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดที่นั่งเล็ก และแบตเตอรี่ของรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ก็จะมีแบตเตอรี่ที่มีความจุไฟมากกว่า
*ข้อแนะนำ : ผู้ใช้ควรสังเกตุสเปคของรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ และขอให้แน่ใจว่ามีสเปค (เช่นโครงสร้าง กำลังมอเตอร์ และ ความจุแบตเตอรี่) จะต้องสูงกว่ารถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดเล็ก เนื่องจากรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ ต้องรับน้ำหนักมากกว่า และนอกเหนือจากนั้น ลูกค้าบางท่านที่ต้องการใช้รถเข็นไฟฟ้าในที่แคบๆ เช่นในบ้าน โดยขับขี่เข้า-ออกประตูห้องต่างๆ ก็ควรเลือกรถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดของประตู (โดยปกติ ขนาดประตูห้องน้ำจะประมาณ 75ซม. ประตูห้องนอนจะประมาณ 80ซม.) หรือเหมาะสมกับขนาดของทาง หรือ ทางลาดที่ต้องใช้รถเข็นไฟฟ้าวิ่งผ่าน
โดยปกติแล้วลูกหลานจะกังวลว่าผู้สูงอายุจะสามารถใช้งานรถเข็นไฟฟ้าได้มั้ย หากขณะใช้งานแล้วจะอันตรายหรือไม่ จริงๆ แล้วการบังคับรถเข็นไฟฟ้าสำหรับผู้สุงอายุไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เพราะรถเข็นไฟฟ้าสำหรับผู้สูงอายุบังคับง่ายมาก ควบคุมทิศทางได้ด้วยปลายนิ้ว หากเราอยากเดินหน้าถอยหลัง เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ก็สามารถผลัก Joystick ไปตามทิศทางที่ต้องการจะไปได้เลย และเมื่อเราอยากหยุด เราก็ปล่อยมือจากตัวบังคับ รถเข็นไฟฟ้าก็จะไม่เคลื่อนที่ โดยรถเข็นไฟฟ้ามีระบบความปลอดภัยอยู่ 2 ประเภท 1.ระบบหน่วงไฟฟ้า 2.ระบบเบรคไฟฟ้า
” ระบบหน่วงไฟฟ้า ” คือระบบเบรค ในขณะที่เราบังคับรถเข็นไฟฟ้าอยู่ แล้วเราปล่อยมือจาก Joystick (คันโยกบังคับ) การหยุดตัวของรถเข็นไฟฟ้าจะช้าลงโดยประมาณ 3 วินาที รถจึงค่อยๆหยุดจะเรียกว่าระบบหน่วงไฟฟ้า แต่ข้อดีของระบบหน่วงไฟฟ้าคือเวลาเราปล่อยมือ เวลารถหยุดจะนิ่มนวล ไม่กระชาก
“ระบบเบรคไฟฟ้า “ คือระบบเบรค ในขณะที่เราบังคับรถเข็นไฟฟ้าลงทางลาดชัน แล้วเราปล่อยมือจาก Joystick (คันโยกบังคับ) รถเข็นไฟฟ้าจะหยุดทันที ไม่ไหล หรือเรียกว่าระบบความปลอดภัยสูงนั่นเอง จะเหมาะสำหรับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
ระบบหน่วงไฟฟ้า และระบบเบรคไฟฟ้า ทั้งสองอย่างนี้ก็ไม่มีอันตรายใดๆ ต่อผู้ใช้งานขึ้นอยู่กับความชอบในการขับเคลื่อนเสียมากกว่า แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้สูงอายุมีแนวคิดว่าหากนั่งรถเข็นไฟฟ้า จะเหมือนคนพิการ นั่งแล้วเขินอาย กลัวจะมีคนมอง ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไปไกลแล้ว ดังนั้นดีไซน์รถเข็นไฟฟ้าของ Elife จะทันสมัย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัน เด็กใช้ได้ ผู้ใหญ่ใช้ดี ซึ่งรถเข็นไฟฟ้าที่ใช้งานแล้วมองเผินๆเหมือนเก้าอี้รถเข็นเสียมากกว่า เพราะทันสมัย ใครๆ เห็นแล้วก็ชอบ โดยรุ่นที่เป็นที่นิยมในกลุ่มขาโจ๋สูงวัย (ผู้สูงอายุ) จะมีดังนี้
รถเข็นไฟฟ้าล้อใหญ่ จะเป็นรถเข็นที่สามารถใช้งานได้ 3 ระบบ คือ 1. คนนั่งสามารถบังคับเองได้ด้วยระบบไฟฟ้า 2. คนนั่งสามารถหมุนล้อได้ด้วยตัวเอง(กรณีแบตหมด) 3. คนอื่นสามารถเข็นให้ได้
ดังนั้นโครงสร้างรถเข็นจะมีโครงสร้างใหญ่ขึ้นและเป็นล้อใหญ่ทำให้วัสดุที่ใช้มีน้ำหนักเยอะตามขนาดของล้อ หากลูกค้าต้องการรถเข็นไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบา ต้องเลือกใช้งานรถเข็นไฟฟ้าที่มีล้อขนาดเล็ก
ร้านรถเข็นไฟฟ้าเปิดให้บริการมานานกว่า 6 ปี เป็นเจ้าแรกๆที่นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ ประเภทรถเข็นไฟฟ้า วีลแชร์ไฟฟ้า หรือเก้าอี้รถเข็นไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำรงใช้ชีวิตในแต่ละวันให้เรียบง่าย และสะดวกสบายมากที่สุด เรามี Showroom สำหรับทดลองสินค้า Elife ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 89/7 โครงการ เจ.เอส.พี. เพลส 4 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150 (บางบอน ถ.กัลปพฤกษ์) มีหน้าร้านที่ชัดเจน หากต้องการเข้ามาทดลองสินค้า สามารถเดินทางเข้ามาได้ เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-เสาร์ เวลา 8.00-17.30 น. วันอาทิตย์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ 9.00-17.00 น. มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการ แนะนำรถเข็นไฟฟ้าให้เหมาะสมกับคนนั่ง และตรงจุดประสงค์กับการใช้งานมากที่สุด
- รถเข็นไฟฟ้าเรามีบริการจัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศไทย กรณีอยู่ใน กทม. และปริมณฑล เรามีบริการจัดส่งสินค้าฟรี พร้อมมีเจ้าหน้าที่ไปสาธิตและแนะนำถึงบ้าน ไม่มีค่าใช้จ่าย
- กรณีอยู่ต่างจังหวัด รอยติดต่อชายแดน เราก็มีบริการจัดส่งสินค้าฟรี โดยขนส่งเอกชน มีรูปแบบการชำระเงิน 2 แบบ สำหรับการจัดส่งสินค้า
” ชำระเงินเลย “ เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัท (สามารถเช็คเครดิตร้านได้)
” เก็บเงินปลายทาง “ เมื่อสินค้าถึงมือผู้รับแล้ว สามารถชำระเงินกับเจ้าหน้าที่ขนส่งได้เลย จะใช้ระยะเวลาการจัดส่งสินค้า 3-5 วันทำการแล้วแต่บางพื้นที่
ร้านรถเข็นไฟฟ้า เรายินดีรับบัตรเครดิตทุกธนาคาร
” กรณีมารับสินค้าหน้าร้าน “ ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้โดยไม่เสียค่าบริการ อีกทั้งยังมีบริการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต 0% อีกด้วย
” กรณีจัดส่งสินค้า “ หากลูกค้าต้องการใช้บัตรเครดิต ลูกค้าสามารถสั่งออนไลน์แล้วกดเลือกชำระเงินผ่านระบบ Paypal เป็นระบบที่ใช้สำหรับการชำระเงินแบบตัดยอดเงินผ่านบัตรเครดิตโดยไม่เสียค่าบริการ
รถเข็นไฟฟ้าสามารถขับได้ทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นราบเรียบ ขึ้นทางลาดชัน หรือพื้นที่เป็นหินขรุขระ ก็สามารถบังคับไปได้ในทุกๆ ที่ ที่อยากไป เนื่องจากรถเข็นไฟฟ้าของเรา เป็นล้อยางตันทั้ง 4 ล้อ ไม่ต้องเติมลมยาง ดังนั้นเราสามารถขับไปได้ในทุกที่ ไม่ต้องกลัวลมยางรั่ว และไม่ต้องคอยเติมลมให้เสียเวลา เพราะ Elife คำนึงถึงลูกค้าเสมอว่า หากใช้ยางตัน จะช่วยลดการดูแลปัญหาจุกจิกไปได้มาก
รถเข็นไฟฟ้าเรามีรับประกันสินค้า 2 ปี ปกติแล้วหากสินค้ายังอยู่ในรับประกันเราบริการดูแลฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่..หากหมดรับประกันสินค้าแล้ว ลูกค้าไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เรามีบริการดูแลตลอดอายุการใช้งาน แต่ก็มักจะมีคำถามอยู่บ่อยๆว่า หากลูกค้าซื้อไปใช้งานที่ต่างจังหวัดหากมีปัญหาจะทำอย่างไรได้บ้าง ?? โดยปกติแล้วเทคโนโลยีในสมัยนี้ก้าวหน้าไปมาก มีโซเชียลออนไลน์ มี Facebook มีไลน์ ในการเข้าถึงและพูดคุยกันได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าไม่มีใคร ไม่รู้จักแอปพลิเคชั่นเหล่านี้แน่นอน โดยลำดับแรกเราจะสอบถามอาการเบื้องต้นก่อน แล้วให้ลูกค้าบันทึกวิดิโออาการเสียของรถเข็นไฟฟ้านั้นๆ ส่งให้ดูที่ช่องทาง ไลน์@ ของร้าน หรือเพจเฟสบุ๊คของร้านเองโดยตรง โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำเบื้องต้นอยู่ตลอด แต่ถ้าหากเจ้าหน้าที่แนะนำไปเบื้องต้นแล้ว แก้ไม่หาย ลูกค้าสามารถส่งรถเข็นโดยขนส่งเอกชนเข้ามาให้เราดูแล โดยจะมีข่างผู้ชำนาญการด้านรถเข็นไฟฟ้า ดูแลให้ หายห่วงได้เลยค่ะ
ร้านรถเข็น Elife ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 โดยเปิดให้บริการจำหน่ายรถเข็นวีลแชร์ วีลแชร์ไฟฟ้า รถเข็นไฟฟ้า รถเข็นผู้สูงอายุ และเตียงไฟฟ้า โดยสินค้าจะเป็นสินค้ากลุ่ม Home care (เน้นใช้งานภายในบ้าน) มานานมากกว่า 6 ปี มีที่ตั้งหน้าร้าน (Showroom) ที่ชัดเจน และหากซื้อรถเข็นไฟฟ้าจากทางร้าน ลูกค้ายังสามารถขอใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน เพื่อนำไปใช้เบิกในรูปแบบบริษัท , เบิกหน่วยงานราชการ , หรือเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
และยังคงมีหลายๆ ท่าน ที่กำลังมองหารถเข็นไฟฟ้าไปไว้ใช้งาน แน่นอนว่าหากมีความต้องการที่จะซื้ออะไรแล้ว ต้องรอบคอบ และเปรียบเทียบราคาอย่างแน่นอน แต่หากซื้อสินค้าในราคาที่ถูกมาก สินค้าไม่มีรับประกัน ไม่มีบริการหลังการขาย หรือบริการหลังการขายที่ไม่ดี หากใช้งานไปแล้วในอนาคต เกิดปัญหาขึ้น รถเข็นไฟฟ้าชำรุด เสื่อม โทรม จะหาร้านที่รับซ่อมหรือซื้ออะไหล่ น่าจะเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับรถเข็นไฟฟ้าของทาง Elife เอง ถือว่าราคาไม่สูงมากนัก ลูกค้าทั่วไปสามารถจับต้องได้ สามารถเลือกซื้อไปไว้ใช้งานได้ ที่สำคัญเรามีบริการหลังการขายที่ดีลูกค้าที่เคยได้ใช้บริการแล้วติดใจ บอกต่อกันแบบปากต่อปาก และที่สำคัญรถเข็นไฟฟ้าเป็นสินค้าที่เราสั่งผลิตเอง ดังนั้นอะไหล่ทุกชิ้นส่วนเรามีไว้คอยบริการลูกค้า Elife โดยเฉพาะ ดังนั้นอยากจะแนะนำว่าหากเปรียบเทียบราคากันแล้วราคาไม่ต่างกันมาก แนะนำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการรถเข็นไฟฟ้าจากทางแบรนด์ Elife ที่มีทั้งหน้าร้านให้ทดลองรถเข็นไฟฟ้า มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำ และที่สำคัญมีบริการซ่อมบำรุงโดยช่างเฉพาะทางอีกด้วยค่ะ
ปัจจุบันการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มาแรงมากในปีนี้ แต่ยังมีหลายท่านที่ยังกังวลว่าการสั่งซื้อสินค้าโดยไม่ได้ลอง ไม่ได้เห็นสินค้าตัวจริงจะทำให้การตัดสินใจค่อนข้างยากลำบาก และในการตัดสินใจซื้อนั้นก็มักจะมีคำถามอยู่ในใจเกี่ยวกับรายละเอียดของสินค้าเหล่านั้นอีกมากมาย ดังนั้นเราจึงรวบรวมคำถามและคำตอบที่สำคัญมาให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้วค่ะ