ไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอยู่ในระดับที่ 1 หรือ Aging Society ที่มีประชากรอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป มากกว่า 7% มาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับประเทศสิงคโปร์ และอีก 4 ปี คือ ปี 2565 คาดว่าจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยในระดับที่ 2 หรือเรียกว่า Aged Society ที่มีประชากรอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
“อายุ” เป็นเพียงตัวเลข สำคัญที่ “ใจ”
ในประเทศไทย ผลวิจัยพบว่า 90% ของกลุ่มตัวอย่างมองว่าตนเองมี “อายุใจ” ต่ำกว่า “อายุจริง” และ 8% คิดว่า “อายุจริง” กับ “อายุใจ” เท่ากัน และมีเพียง 2% ที่มองว่าตนเองมีอายุใจมากกว่าอายุจริง
**เหตุผลที่กลุ่มตัวอย่างมองว่าตนเองมีอายุใจต่ำกว่าอายุจริง เนื่องจากมองว่าตัวเขาเองยังทำอะไรได้เอง, ยังมีแรงในการทำงาน, ยังรู้สึกแข็งแรง และชอบออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน
เจาะลึก 5 ไลฟ์สไตล์ผู้สูงวัย
- วัยเก๋าสายชิลล์ มีสัดส่วนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มคนที่ทำการสำรวจมา คิดเป็น 42% ของกลุ่มคนที่ทำการสำรวจ โดยวัยเก๋าสายนี้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ชอบการพักผ่อนแบบจริงจัง เน้นความสบายๆ ชิลล์ๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ทะเล ภูเขา เป็นต้น เพราะจะทำให้ตัวเองได้รู้สึกผ่อนคลาย ปลดปล่อย ไม่เน้นการทำกิจกรรมอะไรหนักๆ
- วัยเก๋าสายบุญ มีสัดส่วนเป็นอันดับสองของกลุ่มคนที่ทำการสำรวจมา คิดเป็น 18% ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิต ชอบมองหาสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพื่อให้ตัวเองได้ปราศจากความทุกข์ในเรื่องต่างๆ สายนี้จะเชื่อในเรื่องการทำความดี ละเว้นความชั่ว เพราะชอบการเข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญ เชื่อในการทำบุญ คือ การต่อชีวิตตัวเองในชาตินี้ และชาติหน้าก็จะเกิดมามีชีวิตที่ดีกว่านี้
- วัยเก๋าสายลุย มีสัดส่วนเป็นอันดับสามของกลุ่มคนที่ทำการสำรวจมา คิดเป็น 16% มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แตกกต่างจากวัยเก๋าสายชิลล์อย่างชัดเจน เพราะพวกเขาชอบทำอะไรรวดเร็ว ชอบไปท่องเที่ยวที่ต้องมีกิจกรรมให้ทำอยู่เสมอ และกิจกรรมที่ได้ทำต้องใช้การเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอด เช่น เดินป่า ปีนเขา และขับรถ ATV เป็นต้น เพื่อให้ตัวเองได้รู้สึกถึงความสนุกสนาน ผ่อนคลาย ตื่นเต้น ผจญภัย และได้ประสบการณ์ในชีวิตใหม่ๆ ที่ได้ในช่วงปั่นปลายชีวิต วัยเก๋าสายนี้ จะไม่กังวลเรื่องความสะดวกสบายมากนัก ค่ำไหนนอนนั้น แต่เน้นเรื่องความปลอดภัยสำคัญที่สุด
- วัยเก๋าสายสังสรรค์ คิดเป็น 14% ของกลุ่มคนที่ทำการสำรวจ มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ปิดการเข้าสังคมใหม่ๆ เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เข้ากับคนอื่นๆได้ง่าย บางครั้งรู้สึกเหงา จึงต้องออกไปทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนๆ เช่น เต้น ร้องคาราโอเกะ และ ออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งสายนี้จะมีการเปิดรับข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอผ่านสื่อ Social Media เป็นคนที่ทันโลก ทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา
- วัยเก๋าสายเปย์ มีจำนวนน้อยที่สุดของกลุ่มคนที่ทำการสำรวจมา คิดเป็น 10% มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ยอมจ่าย เพื่อแลกกับความสะดวกสบายให้กับชีวิต แต่จะใส่ใจรายละเอียดของข้อมูล ข้อมูลที่ได้รับต้องมีความน่าเชื่อถือ จึงจะเลือกซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ เน้นการท่องเที่ยวที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ไปเที่ยวเกาะพีพี จ. ภูเก็ต และชอบทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนที่ต้องใช้เวลานาน ๆ เช่น ดำน้ำ ตีกอล์ฟ เป็นต้น ชื่นชอบการเดินห้างสรรพสินค้าอีกด้วย
เห็นแบบนี้แล้ว Elife จึงนำวิธีการที่ทำให้ไม่แก่มาฝากทุกท่านกันค่ะ
9 วิธีที่ให้ไม่แก่
1.สรรพนามแทนตน ถึงแม้บ้านเราจะเรียกกันเป็นพี่น้องแสดงความเป็นญาติได้กับทั้งชาติ กรณีนี้ให้เรียกชื่อเป็นสรรพนามแทนตนไปเลย หรือจะใช้คำว่าเราก็ได้
2. ใส่เสื้อยืด ผู้อาวุโสส่วนใหญ่มักจะไม่ใส่เสื้อยืด เพราะกาลเวลาพาหุ่นให้ใส่ไม่สวยไปแล้ว การรักษารูปร่างด้วยการใส่เสื้อยืดเช็คหุ่นและโครงสร้างกระดูกว่าไม่โก่ง โค้งบิดงอเป็นวิธีเช็คที่ง่ายที่สุด ถ้าคุณยังใส่เสื้อยืดแล้วดูดีอยู่คุณก็ยังไม่แก่
3.”เด็กสมัยนี้นี่……” คำพูดนี้ควรไม่พูดถ้าคุณไม่อยากดูเป็นรุ่นพี่ของมนุษชาติ ให้เลี่ยงไปใช้คำอื่นแทนเช่น “ปัจจุบันนี้” ใช่แล้ว เรากำลังอยู่กับปัจจุบัน
4.ไม่ยืนพิงเสา เอาเป๋าคล้องข้อพับแขน พิงสิ่งใด หรือพักขา สิ่งเหล่านี้บอกว่าคุณไม่มีแรง เสียบุคลิก กระดูกโดนพิงจนเบี้ยวไปข้างหนึ่งได้ ให้ยืนอย่างมั่นคงเสมอ ไม่นั่งไขว่ห้าง เดินเกร็งเก็บหน้าท้อง เป็นการฝึกกล้ามเนื้อฝึกสติจัดกระดูกและดูดีมากๆ
5.ไม่ทำหน้าเบ้ปากแบะ นอกจากจะทำให้เกิดริ้วรอยที่แก่แล้ว ยังทำให้ร่างสั่งเซลล์ให้แก่ด้วยกริยา ลองฝึกเปลี่ยนจากหน้าเหล่านั้นเป็นยิ้มหรือปากจู๋แทน
6.ไม่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ให้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแทน เลี่ยงเหนียงก่อนวัย คอคดโค้งก่อนอายุ เส้นเลือดวิ่งขึ้นสมองคดไปมาสูบฉีดลำบาก หน้าคุณก็จะหม่นไปเรื่อยๆ
7.เลี่ยงบ่น ถ้าอยากบ่นเลี่ยงไปร้องเพลงแทน เนื้อหาเดิมแต่เปลี่ยนเป็นเพลง
8.คำนำหน้าที่ควรติดไว้เสมอ “ดีนะ…” เช่น ดีนะที่โดนขโมยของ เขาไม่ทำร้ายเรา ดีนะที่เขาทำร้ายเราแล้วเราไม่ตาย
9.ฉลาดกิน กินดีเซลล์ก็ดี สวย ใส หน้าก็ไม่แก่ ผิวก็เต่งตึงไม่ต้องพึ่งครีมแพงๆ แค่คุณกินพืชผักเป็นหลัก