fbpx

เตือนคอลกาแฟ ติดคาเฟอีนเสี่ยงตายจริงมั้ย?

เตือนคอลกาแฟ ติดคาเฟอีนเสี่ยงตายจริงมั้ย?

คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นที่พบได้ทั่วไปในเครื่องดื่มต่างๆ เช่น กาแฟ ชา และเครื่องดื่มชูกำลัง คนส่วนใหญ่มักบริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่ปลอดภัย แต่การบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ บทความนี้จะสำรวจว่าการติดคาเฟอีนอาจนำไปสู่ความตายได้หรือไม่ และจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีนที่ปลอดภัย

ปริมาณคาเฟอีนที่ปลอดภัย

สตีฟ เบนนิงตัน เจ้าของ วิสเคิส คาเฟ่ บอกกับ ดิ แอดเวอร์ไทเซอร์ ว่า คาเฟ่ของเขาเป็นเจ้าแรกที่ขายกาแฟสูตรเฉพาะนี้ โดยเป็นการรังสรรค์ไว้ให้กลุ่มพยาบาลห้องฉุกเฉิน ที่ต้องการตื่นตัวตลอดคืนเมื่อต้องเข้าเวร“ผมมีระดับคาเฟอีนที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคน ที่ต้องการกาแฟเพิ่มพลังแก้วนี้” เจ้าของวิสเคิส คาเฟ่ ระบุ

อย่างไรก็ดี เบนนิงตัน มีข้อแนะนำว่า การดื่มกาแฟที่เปี่ยมด้วยคาเฟอีนอย่างเข้มข้นให้มีประสิทธิภาพ สร้างความตื่นตัวอย่างที่ต้องการ ควรค่อย ๆ จิบในระยะเวลา 3-4 ชั่วโมง ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ออกมาเตือนว่า กาแฟที่ช่วยให้ตื่นตัวตลอดเวลาเป็นเครื่องดื่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ ตามข้อมมูลขององค์การอาหารและยา(FDA) ปริมาณคาเฟอีนที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ที่แข็งแรงคือ 400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับกาแฟ 4 ถ้วย ปริมาณนี้สามารถสูงขึ้นได้ถึง 600 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับบางคน แต่ปริมาณที่สูงกว่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

“คาเฟอีนแท้จริงก็คือยาเสพติด มันไม่ใช่เกมหรือของเล่น ที่ต้องการให้คนไปยุ่งเกี่ยวขนาดนั้น” ทันยา ลูอิส นักโภชนาการ บอกกับหนังสือพิมพ์เธอยังบอกอีกว่า เอกสารของโรงพยาบาลที่เธอทำงานอยู่ ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตจากคาเฟอีนว่า มีหลายกรณีที่ร่างกายได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่น้อยกว่าครึ่งของคาเฟอีนที่มีอยู่ในเครื่องดื่มสูตรเฉพาะ แต่ยังก็ทำให้เสียชีวิตได้  ลูอิส กล่าวว่า การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป อาจนำไปสู่ความวิตกกังวล ใจสั่น และการทำงานของลำไส้ผิดปกติ

ซึ่งในไทยเองก็มีนักวิชาการ  รศ.ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาต ที่ปรึกษา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลการดื่มกาแฟ 1 ถ้วย (150 มิลลิลิตร) จะได้รับคาเฟอีนประมาณ 60-150 มิลลิกรัม หากได้รับคาเฟอีนในปริมาณน้อยร่างกายจะมีกลไกกำจัดออกภายใน 24 ชั่วโมง แต่หากเป็นผู้ป่วยโรคตับ ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ และ ทารก กระบวนการขจัดคาเฟอีนในร่างกายจะทำได้ช้า รายงานการศึกษาของ รศ.ทรงศักดิ์ ยังระบุอีกว่า การได้รับคาเฟอีนวันละไม่เกิน 300 มิลลิกรัม เท่ากับกาแฟ 150 มิลลิลิตร 2-3 ถ้วย ไม่ก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพ แต่ถ้าบริโภคเกิน 300 มิลลิกรัม เป็นประจำ อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย กระวนกระวายใจ และหงุดหงิดเมื่อหยุดบริโภค

“คาเฟอีนไม่จัดเป็นสารเสพติด ผู้บริโภคอาจติดกาเฟอีนในลักษณะการบริโภคจนเป็นนิสัย” 

รศ.ทรงศักดิ์ ระบุ

ผลข้างเคียงของการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป

การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงต่างๆ เช่น:

* ใจสั่น
* กระสับกระส่าย
* นอนไม่หลับ
* ปวดหัว
* คลื่นไส้
* อาเจียน
* ท้องเสีย

การติดคาเฟอีน

การติดคาเฟอีนเป็นภาวะที่ร่างกายเกิดการดื้อต่อผลกระทบของคาเฟอีน เมื่อผู้ที่ติดคาเฟอีนหยุดบริโภคคาเฟอีน พวกเขาอาจพบอาการถอน เช่น:

* ปวดหัว
* อ่อนเพลีย
* หงุดหงิด
* ซึมเศร้า
* ปัญหาในการนอนหลับ

การติดคาเฟอีนและความตาย

ที่ปรึกษาสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดขนาดการบริโภคที่ปลอดภัย แต่มีการศึกษาพบว่าอาการนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ เครียด ส่วนใหญ่ที่มักเกิดขึ้นหลังบริโภคคาเฟอีน 200-500 มิลลิกรัม เท่ากับกาแฟ 2-5 ถ้วย แต่ถ้าบริโภคในปริมาณสูงเกิน 600 มิลลิกรัม เท่ากับกาแฟ 6-8 ถ้วย เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย วิตกกังวล หงุดหงิด มือสั่น ตัวร้อน นอนไม่หลับ ปัสสาวะบ่อย กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจเต้นแรงและเร็ว

หากบริโภคกาแฟ 10-15 ถ้วย ซึ่งมีปริมาณคาเฟอีนสูงถึง 1,000 มิลลิกรัม จะทำให้เกิดพิษรุนแรง มีอาการกระสับกระส่าย หายใจเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องแบบตะคริว หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น ความดันเลือดสูง กล้ามเนื้อเกร็ง ชัก

ส่วนปริมาณคาเฟอีนที่ทำให้เสียชีวิตได้ คือ 5,000-10,000 มิลลิกรัม ในผู้ใหญ่ เทียบเท่ากับกาแฟ 50-100 ถ้วย ในเด็กประมาณ 100 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งต้องได้รับจากการบริโภคเพียงครั้งเดียว มักพบในผู้ตั้งใจฆ่าตัวตาย โดยการกินหรือฉีดยาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนในปริมาณมาก

คาเฟอีนจัดเป็นสารเคมีประเภทอัลคาลอยด์ สามารถสกัดออกมาจากส่วนของพืชที่มีคาเฟอีนเป็นองค์ประกอบ สารที่ได้เป็นผงสีขาว มีรสขม ละลายน้ำได้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วภายใน 15 นาที ออกฤทธิ์ได้นาน 3-4 ชั่วโมง มีฤทธิ์สำคัญในการกระตุ้นการทำงานของสมองทำให้ระบบประสาทตื่นตัว และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ลดอาการง่วงนอน และเพิ่มความทนในการออกกำลังกาย โดยไปชะลอความเมื่อยล้า ทำให้สามารถออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาได้นานขึ้น

 สรุป

แม้ว่าการติดคาเฟอีนอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าการติดคาเฟอีนอาจนำไปสู่ความตายได้ อย่างไรก็ตาม การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องบริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ

คำแนะนำ

* จำกัดปริมาณคาเฟอีนของคุณให้อยู่ที่ 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 600 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับบางคน
* หลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนในช่วงบ่ายแก่ๆ หรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการนอนหลับ
* หากคุณกังวลเกี่ยวกับการบริโภคคาเฟอีนของคุณ ให้ปรึกษาแพทย์ของคุณ

เอกสารอ้างอิง

* [องค์การอาหารและยา: คาเฟอีน] (https://www.fda.gov/consumers/consumer-updates/spilling-beans-how-much-caffeine-too-much)
* [สถาบันสุขภาพแห่งชาติ: คาเฟอีน](https://medlineplus.gov/caffeine.html)