เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เลือกแบบไหนดี ?

หลังจากที่ได้มีแพทย์ออกมาแนะนำว่า เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หรือเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด สามารถใช้ติดตามและเฝ้าระวังอาการโควิด-19 ได้ ทำให้หลายคนอยากจะมีเจ้าเครื่องนี้ติดบ้านเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ยี่ห้อไหนดี ?

เครื่องวัดทั้ง 4แบบสามารถต่อเข้ากับ Bluetooth เชื่อมข้อมูลกับมือถือ เพื่อเก็บค่ามาเป็นแนวโน้ม และพฤติกรรม

บางคนอาจจะตัดสินใจเลือกซื้อยี่ห้อที่ราคาถูกที่สุด โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของเครื่อง ซึ่งหากได้เครื่องที่ไม่มีคุณภาพมาใช้งานล่ะก็ อาจจะทำให้ส่งผลเสียร้ายแรงตามมาได้เลยล่ะค่ะ บทความนี้จึงขอแนะนำ วิธีเลือกซื้อเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่มีคุณภาพ ให้คุ้มค่าคุ้มราคากับเงินที่เสียไปแน่นอนค่ะ

ถ้าใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่ไม่มีคุณภาพ จะเกิดผลเสียอย่างไรบ้าง?

สำหรับท่านที่กำลังมองหาเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หรือเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด หากไปลองเสิร์ชดูในอินเทอร์เน็ต จะเห็นได้ว่ามีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ววางขายอยู่มากมาย แถมราคายังมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน หากเปรียบเทียบราคา 200 กับ 2,000 แน่นอนว่าทุกคนคงอยากซื้อในราคาที่ถูกที่สุดใช่ไหมล่ะคะ แต่หากมองให้ลึกกว่านั้น ยี่ห้อต่างกัน ราคาต่างกัน ฟังก์ชันต่างกัน คุณภาพก็ย่อมต่างกันเช่นกัน

เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หรือเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด เป็นเครื่องมือแพทย์หนึ่ง ที่ใช้สำหรับวัดค่าออกซิเจนภายในเลือด รวมถึงการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งค่าเหล่านี้มีความเซนซิทีฟมาก เนื่องจากเกี่ยวกับการหายใจโดยตรง ซึ่งเป็นระบบร่างกายที่สำคัญมาก โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่จำเป็นจะต้องคอยเฝ้าระวังระดับค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ตลอด อย่างเช่น ผู้ป่วยโรคปอด ผู้ป่วยความดันต่ำที่อยู่ในภาวะที่เสี่ยงจะช็อคได้ทุกเมื่อ

ดังนั้นค่าออกซิเจนที่ปรากฏบนหน้าจอของเครื่องวัดออกซิเจน จึงมีความสำคัญมาก เพราะหากพบว่าผู้ป่วยเหล่านั้นมีค่าที่ผิดปกติ เราจะสามารถแจ้งแพทย์ให้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่ผู้ป่วยจะทรุดจนถึงขั้นวิกฤต (อ้างอิงข้อมูลจาก โรงพยาบาลลานนา) ในทางกลับกัน หากเราใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่ไม่มีคุณภาพ ความแม่นยำในการแสดงค่าออกซิเจนในเลือดย่อมไม่ถูกต้อง ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้ว่า ค่าในความเป็นจริงกับค่าที่แสดงผลบนหน้าจอของเครื่องนั้นสัมพันธ์กันหรือไม่

หากในความเป็นจริงนั้น ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ แต่ตัวเครื่องกลับแสดงผลออกมาว่าปกติ จนทำให้อาการของโรคที่เป็นอยู่ภายในหนักขึ้นเรื่อย ๆ เราจะพบความผิดปกติอีกทีเมื่อผู้ป่วยแสดงอาการผิดปกติออกมาให้เห็น ซึ่งในตอนนั้นผู้ป่วยอาจมีภาวะร้ายแรงจนถึงขั้นวิกฤตได้ ดังนั้น เรื่องของคุณภาพของตัวเครื่อง จึงเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงมากกว่าเรื่องของราคา เพราะเรื่องของชีวิตย่อมมีค่ามากกว่าเงินที่เสียไปค่ะ

เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ยี่ห้อไหนดี? เลือกซื้ออย่างไรให้ได้คุณภาพ

หลังจากที่ได้เห็นความสำคัญของการมีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่มีคุณภาพไปแล้ว แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าเครื่องไหนที่มีคุณภาพ? หลายท่านอาจจะลองค้นหา เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว pantip ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ถูกใจ ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ยี่ห้อไหนดี ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนไกลค่ะ บทความนี้ได้รวบรวมทริคการซื้อเครื่องวัดออกซิเจนที่มีคุณภาพง่าย ๆ สามารถนำไปประกอบการตัดสินใจซื้อได้เลยค่ะ

1. ต้องวัดค่าได้แม่นยำ ความแม่นยำในการวัดค่าและแสดงผลเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดเลยค่ะ เพราะการจะช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะร้ายแรงได้อย่างทันท่วงทีนั้น การแสดงค่าออกมาให้ถูกต้องใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด ย่อมทำให้เราสามารถประเมินสถานการณ์ของผู้ป่วยได้นั่นเองค่ะ ซึ่งเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่มีความแม่นยำสูง จะมีความคลาดเคลื่อนของค่าออกซิเจนอยู่ที่ ± 2% ในผู้ใหญ่ และคลาดเคลื่อนไม่เกิน ± 3% ในเด็กค่ะ

2. ตัวเครื่องได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาคือเรื่องของมาตรฐานในการผลิตค่ะ เพราะในส่วนตรงนี้จะทำให้เราสามารถมั่นใจเพิ่มได้อีกว่า ตัวเครื่องที่ได้จะมีคุณภาพที่เชื่อถือได้จริง เนื่องจากได้รับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานจากผู้เชี่ยวชาญแล้วนั่นเองค่ะ เช่น มาตรฐาน CE (European Conformity) , มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization)

3. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์/ยี่ห้อ หากเลือกซื้อเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่ไม่มียี่ห้อ เราก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเงินที่จะเสียไปนี้ จะได้ของที่มีคุณภาพกลับมาหรือเปล่า เราไม่อาจทราบได้ว่าผู้ผลิตคือใคร น่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน จะแม่นยำจริงหรือไม่ ดังนั้น การที่มียี่ห้อหรือมีแบรนด์ของตัวเครื่องที่ชัดเจน จะทำให้เราอุ่นใจได้ว่าอย่างน้อยเราก็สามารถตรวจสอบได้ว่ายี่ห้อนั้นน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน นอกจากจะดูว่าเครื่องมียี่ห้อหรือไม่นั้น สิ่งสำคัญต้องดูด้วยนะคะว่ายี่ห้อนั้นหรือแบรนด์นั้น น่าเชื่อถือพอหรือเปล่า

4. หน้าจอแสดงผลชัดเจน นั่นก็เพื่อให้สามารถมองเห็นค่าได้แม้อยู่ในที่ที่ไม่มีแสงสว่างหรือแสงน้อยอย่างตอนกลางคืน ดังนั้น ควรเลือกหน้าจอแบบ OLED ที่สามารถมองเห็นตัวเลขได้ตลอดทุกช่วงเวลา ซึ่งมีข้อดีกว่าหน้าจอแบบ LED ที่ความสว่างขึ้นอยู่กับแสงรอบ ๆ ตัว แถมยังมีความสว่างจ้าไปสำหรับบางท่าน ทำให้อ่านตัวเลขได้ยากในบางครั้งค่ะ ดังนั้น หากเลือกเครื่องวัดออกซิเจนที่มีหน้าจอแบบ OLED และยิ่งสามารถปรับระดับของแสงหน้าจอได้จะยิ่งดีมากเลยค่ะ

5. มีฟังก์ชันเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ให้เลือกซื้อที่มีฟังก์ชันในการแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่หมด และหน้าจอมีการแสดงสถานะของแบตเตอรี่ด้วยนะคะ เพื่อที่เราจะสามารถเตรียมตัวได้ทันหากแบตเตอรี่ใกล้หมด อย่างเช่นเวลาจะพกพาออกไปข้างนอก โดยไม่ต้องกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดโดยที่เราไม่รู้ตัว อีกทั้งเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่ใช้แบตเตอรี่ จากถ่านขนาด AAA ก็จะช่วยให้สามารถหาซื้อได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เวลาที่แบตเตอรี่หมดก็สามารถออกไปซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อแถวบ้านได้ทันทีเลยค่ะ

6. มาพร้อมฟังก์ชันเสริม จะซื้อเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วมาใช้ทั้งที จะเลือกซื้อแค่ที่สามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือดอย่างเดียวก็คงไม่พอ เพราะค่าออกซิเจนในเลือดก็ต้องดูควบคู่ไปกับอัตราการเต้นของหัวใจหรือชีพจร รวมทั้งอัตราการการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย (PI%) ด้วยค่ะ ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่มีฟังก์ชันเสริมเหล่านี้ในเครื่องเดียว ไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ แยกให้ยุ่งยากเลยค่ะ นอกจากนี้ควรดูว่าเครื่องมีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการใช้ด้วยจะดีมากเลยค่ะ เช่น มีเสียงแจ้งเตือนเมื่อค่าออกซิเจนในเลือดผิดปกติ ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน เป็นต้น

แนะนำเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว จาก Elife

เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Pulse Oximeter) คือ อุปกรณ์ที่ใช้วัดระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) รวมทั้งยังสามารถใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย ตัวเครื่องมีลักษณะคล้ายคลิปหรือเครื่องเย็บกระดาษ ใช้งานโดยการหนีบที่บริเวณปลายนิ้วของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง ที่ใช้กันมากในโรงพยาบาล แต่ประชาชนทั่วไปก็สามารถซื้อมาใช้เองได้ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์นี้ใช้งานไม่ยาก โดยส่วนมากจะนำมาใช้ติดตามอาการของโรค เช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจล้มเหลว เป็นต้น

รายละเอียดสินค้า YX310 เครื่องวัดออกซิเจนนิ้วมือ

วัดระดับออกซิเจนในเลือดและอัตราชีพจรผ่านปลายนิ้ว (แนะนำใช้นิ้วชี้)
ขนาดนิ้วมือที่ใช้ตรวจวัด ยกเว้นนิ้วโป้ง ระหว่าง 0.3 และ 1.0 นิ้ว (0.8 – 2.54 ซม.)
จอแสดงผล OLED
มีการแสดงระดับแบตเตอรี่และความแรงของอัตราชีพจร
4 Direction Display มีปุ่มกดที่ด้านหน้า
แสดงผล SpO2 ที่ 0% – 100%
Pulse rate ที่แสดง 25 bpm – 250 bpm
ค่ากระแสไฟที่ใช้ น้อยกว่า 40 mA ที่อัตรา 3V
ค่าความคลาดเคลื่อน ±2% ในช่วงการวัด 70% – 100%
ขอบเขตอุณหภูมิผิวสามารถตรวจวัดได้ ไม่เกิน 41 °C (106 °F) ในอุณหภูมิสภาพแวดล้อม 35 °C (95 °F)
อย. 65-2-2-2-0000064
95% ขึ้นไป ออกซิเจนในเลือดปกติดี
90 – 94% ให้ระมัดระวังอาการผิดปกติ
น้อยกว่า 90% มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

รายละเอียดสินค้า YX110 เครื่องวัดออกซิเจนนิ้วมือ

วัดระดับออกซิเจนในเลือดและอัตราชีพจรผ่านปลายนิ้ว (แนะนำใช้นิ้วชี้)
ขนาดนิ้วมือที่ใช้ตรวจวัด ยกเว้นนิ้วโป้ง ระหว่าง 0.3 และ 1.0 นิ้ว (0.8 – 2.54 ซม.)
จอแสดงผล LED
มีการแสดงระดับแบตเตอรี่และความแรงของอัตราชีพจร
1 Direction Display
แสดงผล SpO2 ที่ 0% – 100%
Pulse rate ที่แสดง 25 bpm – 250 bpm
ทำงานแบบต่อเนื่อง 17 ชั่วโมง (เวลาในการใช้งานขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่)
ใช้แบตเตอรี่อัลคาไลน์ AAA 2 ก้อน
95% ขึ้นไป ออกซิเจนในเลือดปกติดี
90 – 94% ให้ระมัดระวังอาการผิดปกติ
น้อยกว่า 90% มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

สรุป

เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยวัดระดับออกซิเจนในเลือด เพื่อเฝ้าระวังแนวโน้มสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดและการหายใจ ดังนั้น หากจะซื้อเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว จึงจำเป็นต้องซื้อเครื่องที่มีคุณภาพสูง พร้อมทั้งมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน ไปพร้อม ๆ กับการคำนึงเรื่องราคานะคะ เพราะหากใช้งานเครื่องที่ไม่มีคุณภาพ ย่อมทำให้การประเมินสถานการณ์ของผู้ป่วยผิดพลาดได้ ซึ่งนั่นอาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่ร้ายแรงตามมาได้ค่ะ