เราจะมารีวิวรถเข็นไฟฟ้า PW-301 รถเข็นไฟฟ้าพับได้ที่เบาสุดในท้องตลาดตอนนี้นะครับ ส่วนประกอบหลักของรถเข็นนั่งไฟฟ้าตัวนี้คือ ทำจากวัสดุอะลูมิเนี่ยมทั้งหมด, มอเตอร์ Brusheless, แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 22 กิโลกรัม อีกทั้งยังออกมาเพื่อให้พับแล้วมีขนาดเล็กที่สุด โดยออกแบบให้แบตเตอรี่มีขนาดพอดีกับโครงอะลูมิเนียม ทำให้ประหยัดเนื้อที่ พับได้ขนาดเล็ก และ เหมาะแก่การพกพา และใช้งาน
ฟังก์ชั่นรถเข็นตัวนี้เอามาครบ คล้ายรถเข็น PW-201 ซึ่งมีระบบเบรคไฟฟ้ากันรถไหลบนทางลาด และ บวกระบบ Motor Brushless ที่ให้แรงขับเคลื่อนสูงที่สุด(ประสิทธิ์ภาพของมอเตอร์อยู่ที่ 80-90% ต่างกับ Motor ธรรมดาที่อยู่ที่ 60-70%) ทำให้การบังคับเลื่อนไหล และสามารถรับภาระได้มากกว่า จาก Spec รับน้ำหนักได้ 120kg และทำความชันได้ที่ 12 องศา (แต่ด้วยประสิทธิภาพตัวรถจริงๆแล้วสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 kg และทำความชันได้ 15 องศา) ระบบเบรคไฟฟ้าสามารถทำการหยุดรถได้อย่างรวดเร็ว แล้วเมื่อขึ้นหรือลงทางชัน หากหยุดรถระบบจะทำการหยุดรถให้อยู่กับที่เอง เพื่อความปลอดภัยของผู้นั่ง
โครงสร้างและส่วนประกอบทำด้วย อะลูมิเนียมทั้งหมด (7003 Aerospace Aluminium) ขึ้นรูปพิเศษให้มีขนาดพอดีและสามารถพับและรับน้ำหนักได้มาก (อะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงและเบากว่าเหล็กมาก) ตัวเบาะเป็นโฟมสังเคราะห์หนา และบุอย่างดีเพื่อความนุ่มสบายในการนั่ง หากไม่ต้องการใช้กำลังมอเตอร์ สามารถให้บุคคลอื่นเข็นได้ปกติเหมือนรถเข็นทั่วไป
Charger สำหรับชาร์จไฟฟ้าใช้ไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 110-220 volt จึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องเดินทางไปต่างประเทศที่ใช้ไฟฟ้าไม่เหมือนบ้านเรา (ทั่วโลกจะใช้ไฟฟ้า อยู่ 2 ความต่างศักดิ์ คือ 110v เช่นในประเทศ USA,ญี่ปุ่น และ 220v ที่เมืองไทย, ฮ่องกง, จีน เป็นต้น) ควบคุมการทำงานด้วย controller เครื่องที่ตามการตอบสนอง เช่นหากดัน Joy Stick ไปข้างหน้าแรง จะวิ่งเร็ว หากดันไปเบาๆรถจะวิ่งช้าเป็นต้น ด้านล่างของตัวรถเป็นกระเป๋าสามารถใส่สัมภาระได้ เช่น กระเป๋าเงิน, น้ำ หรือ Charger เป็นต้น
ส่วนประกอบ
1.โครงสร้าง หรือ frame ทำจาก อลูมิเนียม 7003 Aerospace Aluminium คุณภาพสูง ขึ้นรูปโดยเฉพาะ ทำให้มีรอยเชื่อมต่อน้อยที่สุด เพื่อความแข็งแรง และเบาของรถ
2. ล้อ ประกอบด้วยล้อ 3 คู่ด้วยกัน
– คู่หน้า 7 นิ้วเติ่มลม support และควบคุมทิศทาง ดอกยางเพื่อการเกาะถนน
– คู่หลัง 8 นิ้วล้อตัน พร้อมดอกยาง ล้อนี้เชื่อมต่อกับมอเตอร์ขับดัน Brushless Motor
– คู่ท้ายยางสังเคราะห์ตัน ใช้เพื่อการ support ขึ้นทางลาดเอียงไม่ให้รถหงายหลัง
3. คันโยกล็อคล้อ อยู่ที่มอเตอร์ทั้งสองข้างของตัวรถ
– ดันขึ้นเพื่อใช้ระบบไฟฟ้า(ล้อจะล็อคอยู่กับที่เพื่อใช้กำลังมอเตอร์) รถจะอยู่ในโหมด เบรคไฟฟ้า Electromagnetic Brakes จะไม่ไถลเวลาขึ้นทางชัน
– ดันลงเพื่อให้บุคคลอื่นเข็นได้
4. มอเตอร์ไฟฟ้า+เบรคไฟฟ้า มอเตอร์ 180watt จำนวน 2 ตัวทำงานอิสระต่อกัน โดยจะได้รับกระแสไฟฟ้าจาก controller ในการบังคับความเร็วและทิศทางในการหมุนของมอเตอร์แต่ละตัว เคลื่อนที่แบบหมุนอยู่กับที่ล้อทั้งสองจะหมุนทิศตรงข้ามกัน เคลื่อนที่ตรงไปข้างหน้ามอเตอร์ทั้งสองจะหมุนไปข้างหน้าด้วยความเร็วเท่ากัน การตีโค้งวงกว้างมอเตอร์ หากตีโค้งไปด้านไหนล้อข้างนั้นจะหมุนช้ากว่าอีกข้างนึ่งเป็นต้น
ระบบเบรคทำงานเมื่อรถอยู่นิ่ง หรือหยุดการเคลื่อนที่ คือทุกครั้งที่หยุด หรือจะหยุด จะมีกระแสไฟฟ้าไปหน่วงมอเตอร์ให้หยุด และล็อคเฟื่องหมุนไว้ เมื่อบังคับ controller ให้เคลื่อนที่ไฟฟ้า จะได้ปลอดล็อคเฟื่อง ให้หมุนได้อีกครั้ง ดังนั้นเวลาใช้งานทุกครั้งเมื่อจะเคลื่อนที่และจะหยุดจะมีเสียง “คลิ๊ก” ทุกครั้งเพื่อปลดและล็อคเฟื่องตามลำดับ
5. ส่วนควบคุมหรือ controller ใช้ในการควบคุมและดูสถานะของรถกับ แบตเตอรี่ มีปุ่มเปิดปิด พร้อมไฟแจ้งสถานะแบตเตอรี่, ปุ่มเพื่อลดความเร็วของตัวรถ, แตรไฟฟ้า, และ Joy Stick ควบคุมทิศทาง ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายเข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก
** สามารถติดตั้งคันบังคับได้ทั้งด้านซ้าย หรือ ขวา เพื่อเหมาะแก่ผู้ใช้งาน **
6. แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ทำขนาดมาให้เข้ากับตัวโครง เพื่อประหยัดเนื้อที่ และความแข็งแรงของโครง (สามารถใส่แบตเตอรี่ทั้งสองข้างได้)
7. พนักรองขา สามารถพับลงเพื่อวางฝาเท้า หรือพับขึ้นเพื่อลุกขึ้นจากตัวรถได้
8. กล่องควบคุม เปรียบเสมือนกล่องคอมพิวเตอร์ แปลงสัญญาณที่ได้จากคันบังคับ เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อสั่งการเคลื่อนที่ของมอเตอร์อีกที
9. พนักแขน สำหรับวางแขน ทำจากยางสังเคราะ **ส่วนประกอบนี้ยกขึ้นได้ เพื่อให้ผู้นั่งสามารถทำกิจกรรมด้านข้างตัวรถได้บ้าง เช่นการขึ้นเตียงนอนจากด้านข้างตัวรถ การทำสวนด้านข้างตัวรถ การขึ้นรถตู้เป็นต้น**
10. เบาะนั่ง และ พนักพิง ทำจากวัสดุคุณภาพดี บุโฟมหนาเพื่อให้นั่งได้อย่างสบาย ลดแรงกดทับ และระบายอากาศได้ดี เบาะสามารถถอดเพื่อซักล้างได้
11. มือจับสำหรับให้คนเข็น ใช้เมื่อต้องการให้คนอื่นเข็นให้ (ต้องดันคันโยกล็อคล้อลง เพื่อให้ล้อสามารถเคลื่อนที่ได้อิสระก่อน)
ระบบเบรคไฟฟ้า (electromagnetic brakes)
ระบบเบรคไฟฟ้าตัวนี้ทำการสัมพันธ์กัน 2 ส่วนคือ หน่วงมอเตอร์ด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าเมื่อปล่อยคันบังคับทิศทาง(Joy stick) ส่วนที่สองคือ การล็อคเฟื่องเมื่อหยุดอยู่กับที่
– เมื่อรถเคลื่อนที่ปกตินั้นระบบเบรคนี้จะไม่ทำงาน แต่หากปล่อยคันบังคับ ไฟฟ้าจะจ่ายไฟให้แม่เหล็กทำการหน่วงมอเตอร์ในทิศทางตรงกันข้ามกับการเคลื่อนที่ให้หยุดในเวลาอันสั้น
– เมื่อระบบเบรคไฟฟ้าหยุดรถได้แล้ว จะมีระบบล็อคเฟื่องทางงานต่อเนื่องทันที่คือมีเสียง “คลิ๊ก” เฟื่องจะล็อคไม่ให้มีการเคลื่อนที่ คือขยับรถด้วยแรงของเราให้น้ำหนักเราไม่ได้นั้นเอง เมื่อทำการเลื่อนคันบังคับอีกรอบจะปลดล็อคเฟื่องตัวนี้คือมีเสียง “คลิ๊ก” และขับให้มอเตอร์ทำงานอีกรอบ ระบบนี้จะทำงานเสมอเมื่อ ล็อครถและปลดให้เคลื่อนที่
การใช้งาน
การบังคับ
เริ่มจากการเปิดเครื่องที่ controller ปรับรถความเร็วได้ตามต้องการ กด + หรือ –
ปุ่มบังคับทิศทางนั้นไม่ใช่แบบ 8 ทิศทางครับ ตัวนี้บังคับได้ทุกทิศทาง Free control เลยก็ว่าได้ซึ่งดีกว่ามากในการตอบสนองคนใช้งาน และเข้าใจง่าย บังคับได้แม่นยำกว่า
**มีระบบตอบสนอง หากดันคับบังคับแรง จะเคลื่อนที่เร็ว หากดันช้า จะเคลื่อนที่ช้า**
– ดันคันบังคับไปข้างหน้าตรงๆ หรือ หลังตรงๆ เพื่อให้เคลื่อนที่ไปด้านหน้าหรือหลัง มอเตอร์เดินหน้า/ถอยหลังด้วยความเร็วเท่ากัน
– ดันคับบังคับแบบขวา หรือซ้ายตรงๆ เพื่อให้หมุนรอบตัวเองตามทิศทวนหรือตามเข็ม มอเตอร์ของสองล้อทำงานสลับทิศทางกัน
– ดันคับบังคับไปข้างหน้า หรือหลังแบบเฉียงๆ จะเดินหน้าหรือหลังในทิศทางนั้นแบบโค้งขึ้นอยู่กับว่าดันเฉียงไปขนาดไหน
การพับเก็บ
สามารถพับเก็บได้ง่ายครับตามขั้นตอนเลย ในกรณีที่กางออกมาเพียงแค่ทำสลับกัน
1. ดึงสายเพื่อพับเก็บ
2. ดันพนักหลังมาด้านหลัง เพื่อให้ตัวรถทำมุม 45 กับพื้น
3. พับพนักหลังขี้น และตั้งรถขึ้นบนพื้น
4. หันล้อหน้าให้ตรง
5. พับโครงรถเข้าหากัน (ตามขั้นตอนใน video สาธิต)
สรุป ความรู้สึกเมื่อได้ลองสัมผัส
จากการได้ลองใช้งาน 3 วันเต็มเป็นระยะทางเกิน 5-7 กิโลเมตร แบตลดไป 3 จุดจาก 8 จุดบอกความรู้สึกได้เลยว่าใช้งานได้ดีมาก เพราะบังคับง่าย คนใช้งานใหม่สามารถใช้งานได้ทันทีครับ อาจเรียนรู้บ้างแต่ไม่เกิน 2-5 นาทีในการปรับตัว ทั้งในแนวตรง ทางราบ ทางชัน(ชันไม่มากนะครับแค่แบบขึ้นสะพานข้างคลอง) ทางวิบากเป็นหลุมนิดหน่อยในสนามหญ้า(ปกติห้ามใช้ในทางวิบากนะครับ ไม่ปลอดภัย) ใช้งานได้อย่างดี เข้าใจว่ามอเตอร์วิ่งได้เร็วกว่านี้แต่ถูก set ค่ามาให้วิ่งได้จำกัดที่ 6 กิโลเมตรเพื่อความปลอดภัย (เดินทางได้เร็วกว่าการเดินของคนปกติมากครับ)
ซื้อเชื่อว่าดีต่อคนใช้ เพราะช่วยเติ่มเต็มชีวิตให้กับผู้ป่วย คนพิการ หรือคนชรา ให้เค้าได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงกันคนธรรดามากที่สุด เค้าสามารถบังคับ เดินทาง หรือทำกิจกรรมต่างๆได้ด้วยตัวของเค้าเอง ไม่ว่าจะไปแถวรอบบ้าน เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS หรือใต้ดิน MRT ทำให้ชีวิตมีความสุขครับ
แต่ขอสำคัญสุดคือ ต้องให้ผู้ใช้ออกกำลังกาย หรือทำกายภาพบำบัดควบคู่ด้วย ไม่อย่างงั้นร่างกายจะไม่ใช้กล้ามเนื้อขาเลย หากต้องนั่งเป็นเวลาหลายชั่วโมง ควรใช้เบาะรองนั่งพิเศษ หรือ รองศอกเพื่อกันแผลกดทับครับ
ข้อควรระวังในการใช้งาน การรักษา
– สามารถโดนฝนได้ แต่แนะนำไม่ให้ตากฝนนาน ดีที่สุดไม่ให้โดนและควรเก็บในที่ร่มเพื่อยืดอายุการให้งาน
– เมื่อจอดอยู่นิ่งพยายาม อย่าไปฝืนขยับล้อ เนื่องจาก PW-301 มีระบบเบรคไฟฟ้า คือล็อคอัตโนมัติ หากไปฝืนเข็นอาจทำให้ชุดมอเตอร์เสียได้ เราต้องดึงดันโยกล็อคล้อลงทุกครั้งหากต้องการให้คนเข็น
– หากไม่ได้ใช้นานๆ ควรจะชาร์จแบตเตอรี่ทุกๆ 3 เดือน
จุดเด่น
– เคลื่อนที่ได้ลื่นไหลที่สุด แต่ตอบสนองการทำงานได้ดีที่สุด
– น้ำหนักและขนาดทำมาได้น่าประทับใจ คือเบากว่าในท้องตลาดมาก คือเพียง 22 Kg หากเปรียบเทียบกับรถเข็นไฟฟ้าทั่วไปที่ขายตามศิริราช ที่น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 Kg
– มีระบบเบรคไฟฟ้า เพื่อความ Safety รถจะไม่ไถลเอง
– พับเก็บง่าย ขนาดเล็ก ใส่ท้ายรถได้ สามารถนำขี้นเครื่องบินได้ง่าย
– การทำงานของมอเตอร์ราบเรียบ แถบจะไม่มีเสียงเมื่อขับเคลื่อน
– แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน มีอายุการใช้งานยืนยาวกว่า
จุดด้อย
– ราคาสูงกว่า PW-101 และ PW-201 (แต่หากไม่ติดเรื่องงบประมาณ แนะนำตัวนี้ครับ เนื่องจากดีกว่าในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุ, การทำงาน, คุณภาพ และการออกแบบ)
ปล. ราคาตัวนี้ขายที่เมืองนอกอยู่ที่ 2200 usd หรือประมาณ 75,000บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง ทาง elifegear ขายถูกกว่าค่อนข้างมากครับ
[suffusion-widgets id=’6′]