fbpx

รีวิว PW-301 PLUS รถเข็นไฟฟ้าใหม่ เบากว่า สบายกว่า แรงกว่า

รีวิว PW-301 PLUS รถเข็นไฟฟ้าใหม่ เบากว่า สบายกว่า แรงกว่า

**เนื่องจาก PW-301 Plus เป็นการ upgrade มาจากรุ่น PW-301 ธรรมดา ท่านสามารถอ้างอิงจาก >>Review PW-301<< **

รถเข็นไฟฟ้ารุ่น PW-301-Plus พัฒนาต่อจาก PW-301 คือ เบาขึ้น เครื่องแรงขึ้น นั่งสบายขึ้น งานประกอบคุณภาพเยี่ยม บางท่านจะเห็นว่าตัวเล็ก แต่นั่งจริงๆแล้วนั่งได้สบายผิดคาด เนื่องได้ถูกออกแบบโครงสร้างใหม่ให้กว้างขึ้น ยาวขึ้น และพนักพิงสูงขึ้นรองรับหลัง

ตัวรถทำจากอลูมิเนียมเกรดพิเศษ (7003 Aerospace Aluminium) ขึ้นรูปมาเฉพาะ ส่วนเชื่อมต่อเชื่อมด้วย Aliminum เกรดเดียวกัน จึงหมดห่วงเรื่องการขึ้นสนิมและความคงทน ฟังก์ชั่นรถเข็นตัวนี้เอามาครบ คล้ายรถเข็น PW-201 ซึ่งมีระบบเบรคไฟฟ้ากันรถไหลบนทางลาด และ บวกระบบ Motor Brushless ที่ให้แรงขับเคลื่อนสูงที่สุด(ประสิทธิ์ภาพของมอเตอร์อยู่ที่ 80-90% ต่างกับ Motor ธรรมดาที่อยู่ที่ 60-70%) ทำให้การบังคับเลื่อนไหล และสามารถรับภาระได้มากกว่า จาก Spec รับน้ำหนักได้ 120kg และทำความชันได้ที่ 12 องศา (แต่ด้วยประสิทธิภาพตัวรถจริงๆแล้วสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 kg และทำความชัดได้ 15 องศา) ระบบเบรคไฟฟ้าสามารถทำการหยุดรถได้อย่างรวดเร็ว แล้วเมื่อขึ้นหรือลงทางชัน หากหยุดรถระบบจะทำการหยุดรถให้อยู่กับที่เอง เพื่อความปลอดภัยของผู้นั่ง

Spec2

Spec1

สามารถปรับเป็น Mode ให้คนเข็นได้ มีกระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระและอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้นั่ง ข้อต่อทุกส่วนสามารถพับได้ และ สามารถปรับล็อคได้ เช่นที่พนักวางแขนสามารถยกขึ้นได้ทั้งสองข้าง และสามารถล็อคได้ หรือ ผนักพิงสามารถปรับล็อคได้ และปลดล็อคได้เมื่อต้องการพับ

Charger สำหรับชาร์จไฟฟ้าใช้ไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 110-220 volt จึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องเดินทางไปต่างประเทศที่ใช้ไฟฟ้าไม่เหมือนบ้านเรา (ทั่วโลกจะใช้ไฟฟ้า อยู่ 2 ความต่างศักดิ์ คือ 110v เช่นในประเทศ USA,ญี่ปุ่น และ 220v ที่เมืองไทย, ฮ่องกง, จีน เป็นต้น) ควบคุมการทำงานด้วย controller เครื่องที่ตามการตอบสนอง เช่นหากดัน Joy Stick ไปข้างหน้าแรง รถจะวิ่งเร็ว หากดันไปเบาๆจะวิ่งช้าเป็นต้น ด้านล่างของตัวรถเป็นกระเป๋าสามารถใส่สัมภาระได้ เช่น กระเป๋าเงิน, น้ำ หรือ Charger เป็นต้นSpec3

ระบบเบรคไฟฟ้า (electromagnetic brakes)

ระบบเบรคไฟฟ้าตัวนี้ทำการสัมพันธ์กัน 2 ส่วนคือ หน่วงมอเตอร์ด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าเมื่อปล่อยคันบังคับทิศทาง(Joy stick) ส่วนที่สองคือ การล็อคเฟื่องเมื่อหยุดอยู่กับที่
– เมื่อรถเคลื่อนที่ปกตินั้นระบบเบรคนี้จะไม่ทำงาน แต่หากปล่อยคันบังคับ ไฟฟ้าจะจ่ายไฟให้แม่เหล็กทำการหน่วงมอเตอร์ในทิศทางตรงกันข้ามกับการเคลื่อนที่ให้หยุดในเวลาอันสั้น
– เมื่อระบบเบรคไฟฟ้าหยุดรถได้แล้ว จะมีระบบล็อคเฟื่องทำงานต่อเนื่องทันที่คือมีเสียง “คลิ๊ก” เฟื่องจะล็อคไม่ให้มีการเคลื่อนที่ คือขยับรถด้วยแรงของเราให้น้ำหนักเราไม่ได้นั้นเอง เมื่อทำการเลื่อนคันบังคับอีกรอบจะปลดล็อคเฟื่องตัวนี้คือมีเสียง “คลิ๊ก” และขับให้มอเตอร์ทำงานอีกรอบ ระบบนี้จะทำงานเสมอเมื่อ ล็อครถและปลดให้เคลื่อนที่

การใช้งาน

การบังคับ

เริ่มจากการเปิดเครื่องที่ controller ปรับรถความเร็วได้ตามต้องการ กด + หรือ –
ปุ่มบังคับทิศทางนั้นไม่ใช่แบบ 8 ทิศทางครับ ตัวนี้บังคับได้ทุกทิศทาง Free control เลยก็ว่าได้ซึ่งดีกว่ามากในการตอบสนองคนใช้งาน และเข้าใจง่าย บังคับได้แม่นยำกว่า
**มีระบบตอบสนอง หากดันคันบังคับแรง จะเคลื่อนที่เร็ว หากดันช้า จะเคลื่อนที่ช้า**
– ดันคันบังคับไปข้างหน้าตรงๆ หรือ หลังตรงๆ เพื่อให้เคลื่อนที่ไปด้านหน้าหรือหลัง มอเตอร์เดินหน้า/ถอยหลังด้วยความเร็วเท่ากัน
– ดันคันบังคับแบบขวา หรือซ้ายตรงๆ เพื่อให้หมุนรอบตัวเองตามทิศทวนหรือตามเข็ม มอเตอร์ของสองล้อทำงานสลับทิศทางกัน
– ดันคันบังคับไปข้างหน้า หรือหลังแบบเฉียงๆ จะเดินหน้าหรือหลังในทิศทางนั้นแบบโค้งขึ้นอยู่กับว่าดันเฉียงไปขนาดไหน

การพับเก็บ

สามารถพับเก็บได้ง่ายครับตามขั้นตอนเลย ในกรณีที่กางออกมาเพียงแค่ทำสลับกัน
1. ดึงสายเพื่อพับเก็บ
2. ดันพนักหลังมาด้านหลัง เพื่อให้ตัวรถทำมุม 45 กับพื้น
3. พับพนักหลังขี้น และตั้งรถขึ้นบนพื้น
4. หันล้อหน้าให้ตรง
5. พับโครงรถเข้าหากัน (ตามขั้นตอนใน video สาธิต)

สรุป ความรู้สึกเมื่อได้ลองสัมผัส

จากการได้ลองใช้งาน 3 วันเต็มเป็นระยะทางเกิน 5-7 กิโลเมตร แบตลดไป 3 จุดจาก 8 จุดบอกความรู้สึกได้เลยว่าใช้งานได้ดีมาก เพราะบังคับง่าย คนใช้งานใหม่สามารถใช้งานได้ทันทีครับ อาจเรียนรู้บ้างแต่ไม่เกิน 2-5 นาทีในการปรับตัว ทั้งในแนวตรง ทางราบ ทางชัน(ชันไม่มากนะครับแค่แบบขึ้นสะพานข้างคลอง) ทางวิบากเป็นหลุมนิดหน่อยในสนามหญ้า(ปกติห้ามใช้ในทางวิบากนะครับ ไม่ปลอดภัย) ใช้งานได้อย่างดี เข้าใจว่ามอเตอร์วิ่งได้เร็วกว่านี้แต่ถูก set ค่ามาให้วิ่งได้จำกัดที่ 6 กิโลเมตรเพื่อความปลอดภัย (เดินทางได้เร็วกว่าการเดินของคนปกติมากครับ)
ซื้อเชื่อว่าดีต่อคนใช้ เพราะช่วยเติ่มเต็มชีวิตให้กับผู้ป่วย คนพิการ หรือคนชรา ให้เค้าได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงกับคนธรรดามากที่สุด เค้าสามารถบังคับ เดินทาง หรือทำกิจกรรมต่างๆได้ด้วยตัวของเค้าเอง ไม่ว่าจะไปแถวรอบบ้าน เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS หรือใต้ดิน MRT ทำให้ชีวิตมีความสุขครับ
แต่ขอสำคัญสุดคือ ต้องให้ผู้ใช้ออกกำลังกาย หรือทำกายภาพบำบัดควบคู่ด้วย ไม่อย่างงั้นจะไม่ใช้กล้ามเนื้อขาเลย หากต้องนั่งเป็นเวลาหลายชั่วโมง ควรใช้เบาะรองนั่งพิเศษ หรือ รองศอกเพื่อกันแผลกดทับครับ

ข้อควรระวังในการใช้งาน การรักษา

– สามารถโดนฝนได้ แต่แนะนำไม่ให้ตากฝนนาน ดีที่สุดไม่ให้โดนและควรเก็บในที่ร่มเพื่อยืดอายุการให้งาน
– เมื่อจอดอยู่นิ่งพยายาม อย่าไปฝืนขยับล้อ เนื่องจาก PW-301-PLUS มีระบบเบรคไฟฟ้า คือล็อคอัตโนมัติ หากไปฝืนเข็นอาจทำให้ชุดมอเตอร์เสียได้ เราต้องดึงดันโยกล็อคล้อลงทุกครั้งหากต้องการให้คนเข็น
– หากไม่ได้ใช้นานๆ ควรจะชาร์จแบตเตอรี่ทุกๆ 3 เดือน

จุดเด่น

– นั่งสบายขึ้น เครื่องแรงขึ้น แต่นน.ลดลง
– น้ำหนักและขนาดทำมาได้น่าประทับใจ คือเบากว่าในท้องตลาดมาก คือเพียง 18.5 Kg หากเปรียบเทียบกับรถเข็นไฟฟ้าทั่วไปที่ขายตามศิริราช ที่น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 Kg
– มีระบบเบรคไฟฟ้า เพื่อความ Safety รถจะไม่ไถลเอง
– พับเก็บง่าย ขนาดเล็ก ใส่ท้ายรถได้ สามารถนำขี้นเครื่องบินได้ง่าย
– การทำงานของมอเตอร์ราบเรียบ แถบจะไม่มีเสียงเมื่อขับเคลื่อน
– แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน มีอายุการใช้งานยืนยาวกว่า

จุดด้อย

– ราคาสูงกว่า PW-101 และ PW-201 (แต่หากไม่ติดเรื่องงบประมาณ แนะนำตัวนี้ครับ เนื่องจากดีกว่าในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุ, การทำงาน, คุณภาพ และการออกแบบ)
ปล. ราคาตัวนี้ขายที่เมืองนอกอยู่ที่ 2600 usd หรือประมาณ 90,000บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง ทาง elifegear ขายถูกกว่าค่อนข้างมากครับ