fbpx

หน้ากากCPAPต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน? ทำความสะอาดอย่างไร?

หน้ากากCPAPต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน? ทำความสะอาดอย่างไร?

หน้ากากCPAPต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน? ทำความสะอาดอย่างไร?

 

เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยและถูกสุขอนามัย

การใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เป็นทางเลือกสำคัญในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea – OSA) แต่การใช้งานอย่างถูกต้องนั้นไม่ใช่แค่การเปิดเครื่องและนอนเท่านั้น การดูแลรักษาความสะอาดอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการเปลี่ยนอุปกรณ์เมื่อถึงเวลา ถือเป็นหัวใจสำคัญของการใช้งาน CPAP อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อสุขภาพ


ทำไมต้องดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ CPAP?

  1. ลดความเสี่ยงจากเชื้อโรค
    หน้ากาก สายอากาศ และถังน้ำความชื้นเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และฝุ่นละออง หากไม่ทำความสะอาด อาจนำไปสู่การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ

  2. ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
    การดูแลที่ดีช่วยให้อุปกรณ์ใช้งานได้นานขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนบ่อย ๆ

  3. เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
    อุปกรณ์ที่สะอาดและอยู่ในสภาพดี จะทำให้ลมไหลเวียนได้ดี หน้ากากไม่รั่วซึม การบำบัดจึงได้ผลเต็มประสิทธิภาพ


ตารางการทำความสะอาดอุปกรณ์ CPAP

อุปกรณ์ ความถี่ในการทำความสะอาด วิธีทำความสะอาด
หน้ากาก (Mask) ทุกวัน ใช้สบู่อ่อน ๆ เช่น น้ำยาล้างขวดนมเด็ก และน้ำอุ่นล้าง แล้วผึ่งให้แห้ง
สายลม (Tubing) สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน น้ำยาล้างขวดนมเด็ก หรือน้ำส้มสายชูเจือจาง แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
ถังน้ำ (Humidifier Chamber) ทุกวัน ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน น้ำยาล้างขวดนมเด็ก และแช่ด้วยน้ำส้มสายชูเจือจางเป็นครั้งคราว
ฟิลเตอร์อากาศ (Filter) ทุก 2 สัปดาห์ (แบบล้างได้) หรือเปลี่ยนใหม่ทุก 1-3 เดือน (แบบใช้แล้วทิ้ง) ถอดมาล้าง หรือเปลี่ยนตามประเภทของฟิลเตอร์

คำแนะนำในการเปลี่ยนอุปกรณ์

อุปกรณ์ อายุการใช้งานที่แนะนำ(ตามสุขอนามัย) สัญญาณที่ควรเปลี่ยน
หน้ากาก ทุก 3-6 เดือน มีรอยรั่ว รอยแตก หรือซีลไม่แนบกับหน้า
สายลม ทุก 3-6 เดือน มีคราบตะไคร่ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
ถังน้ำ ทุก 6 เดือน มีตะกอน คราบฝังแน่น หรือรอยแตก
ฟิลเตอร์ ทุก 1 เดือน (หรือเร็วกว่านั้นหากสกปรก) มีฝุ่นอุดตันหรือเปลี่ยนสีชัดเจน

** ทั้งนี้ตามสิทธิ์การเบิกในส่วนของหน้ากาก จะให้เบิกปีละ1ครั้ง งบในการเบิกไม่เกิน 4,000.- แต่ถ้าหากหน้ากากเกิดรอยรั่ว หรือ มีรอยฉีกขาดควรเปลี่ยนตามความเหมาะสมเพื่อการรักษาที่ดีและมีคุณภาพ **


เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ควรใช้ น้ำกลั่น เติมในถังความชื้น เพื่อหลีกเลี่ยงคราบตะกรัน

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกหรือสารเคมีแรง ๆ เพราะอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ

  • หมั่นตรวจสอบหน้ากากว่าแนบสนิทกับใบหน้าอยู่เสมอ

  • จัดเก็บอุปกรณ์ในที่แห้งและสะอาด หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน


สรุป

การทำความสะอาดและเปลี่ยนอุปกรณ์ CPAP อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ไม่เพียงช่วยป้องกันการติดเชื้อ แต่ยังทำให้การรักษาด้วย CPAP มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพระยะยาวที่ผู้ใช้ไม่ควรมองข้าม


สินค้าแนะนำ